ดูหนังออนไลน์

โพสต์โฆษณาฟรี ซื้อขายสินค้าฟรี โปรโมทร้านค้าฟรี ประกาศฟรี

โพสต์โฆษณาฟรี ซื้อขายสินค้าฟรี โปรโมทร้านค้าฟรี
×

SMF - Just Installed!


บาคาร่า
mpkwin
usun
บาคาร่า
บาคาร่า
ผลบอลสด
เว็บตรงออนไลน์
รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับรีโนเวท รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก โปรโมทเว็บ, รับโฆษณาสินค้า รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม

รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก ไนโตรเจนเหลว ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก รับติดป้ายแบนเนอร์, ป้ายโฆษณาราคาถูก

ดาฟาเบท
Online casino
หวยรัฐบาล
dnabet
Betworld
dnabet
Betworld
betflik
Sbobet888 ทางเข้า Sbobet
สล็อตเว็บตรง
สล็อตเว็บตรง
สล็อตเว็บตรง
สล็อตเว็บตรง
สล็อตออนไลน์
บาคาร่า
บาคาร่า
คาสิโนออนไลน์
สล็อต เว็บตรง
สล็อตออนไลน์
nexobet
mpk
usun
jokerfun88
fullhouse88
คาสิโน

เพจรวมเรื่องสยองขวัญ(อ่าน 1175 ครั้ง)
เพจรวมเรื่องสยองขวัญ เมื่อ: มิถุนายน 30, 2019, 05:54:50 pm
เพจรวมเรื่องสยองขวัญ เรื่องผี เรื่องน่ากลัว คดีฆาตกรรมโหด ฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก เรื่องเล่าผีน่ากลัวสยองขวัญ







เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา
อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน
25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์
เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ
รวมตำนานผีนานาชาติและปิศาจทั่วโลก
5 ฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงลอยนวลอยู่
5 ผีปีศาจที่มาเยือนยามค่ำคืน
ตำนานผีญี่ปุ่น



6 ตำนานผีของภาคเหนือ
5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน
10 ตำนานผีอาเซียนประเทศเพื่อนบ้านสุดสยอง
มนุษย์กินคนในตำนาน ซอว์นี่ บีน (Sawney Bean)
10 อันดับฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก
8 อันดับฆาตกรสุดโหดแห่งสยามเมืองยิ้ม
เล่าเรื่องสยองขวัญ แดนพิศวง
อลิซาเบธ บาโธรี่ เคานท์เตสกระหายเลือด



25 อาหารแปลกจากทั่วโลก
เล่าเรื่องสยองขวัญ ตายอย่างไก่
เล่าเรื่องสยองขวัญตอนบ้านร้าง
เล่าเรื่องสยองขวัญ ยายไอ้แผน
เล่าเรื่องสยองขวัญ ผีปอบที่วัดป่า
เล่าเรื่องสยองขวัญ ไม่น่าหยิบมา
เล่าเรื่องสยองขวัญ ปอบ
เล่าเรื่องสยองขวัญ แม่ยายเป็นปอบ
เล่าเรื่องผี ปอบห้องเช่า
เล่าเรื่องผี ยายสาย
เล่าเรื่องผี ยายขึ้นไปทำอะไร
ตำนานผีญี่ปุ่น รวมปีศาจสัตว์
เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง
เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง
เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี
เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า
เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม
เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ
เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี
เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้
เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเทพเจ้ากินคน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องหัวกะโหลกร้องเพลง
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 1
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 2
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแเค้นของโอมุชะ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องบ่อนํ้าของคนตาย
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผีของหมู่บ้านชิตานิซามอน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องก้อนหินร้องไห้ยามค่ำคืน
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณของโอมัตสึ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องต้นสนแขวนวิญญาณ
ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณเลี้ยงลูก
ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ
ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน
ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร
ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ
เล่าเรื่องสยองขวัญ สโมสรร้าง
เล่าเรื่องสยองขวัญ แรงงานต่างด้าว
เล่าเรื่องสยองขวัญ สาวชุดดำ
เล่าเรื่องสยองขวัญ วิญญาณอาฆาต
บ้านหลอนแดนนรก
10 สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
เครื่องทรมานในอดีต
วิวาห์สังหารในอินเดีย ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ
เทศกาลตำนานวันปล่อยผี
เล่าเรื่องผี มาเอาแม่ผมไปทำไม
คดีโหดแห่งเขาแอลป์
13 เมืองอาถรรพ์
คดีวิตถาร ครูสาวทำช็อคฆ่าข่มขืนนักเรียนหญิง
ย้อนรอยคดีซีอุยฆ่ากินเครื่องในเด็ก
ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper)
ย้อนรอยคดีพิศวาสฆาตกรรม นวลฉวีและศยามล
10 สถานที่สุดแห่งความสยองขวัญ
10 อันดับฆาตกรเด็ก
ปริศนามรณะตระกูลเคนเนดี้
แคทเธอรีน เฮย์ ต้นตำรับคดีฆ่าหั่นศพ
เดวิด เบอร์โควิทซ์ ฆาตกรต่อเนื่องแห่งนิวยอร์ค
คดีฆาตกรรมในโรงนาสีแดง (Red Barn Murder)
ยโศโฆษาฆาต ฆ่าเพื่อเกียรติยศของครอบครัว


https://www.anyapedia.com
https://www.anyapedia.com/p/blog-page.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_9527.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_2405.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_22.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_4871.html

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2022, 09:09:36 pm โดย anyaha »



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2019, 05:55:20 pm
ขายการ์ตูน pdf ออนไลน์ การ์ตูนแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 12 เล่มจบ

สั่งซื้อการ์ตูน แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 12 เล่มจบ ที่นี่



อาอิฮาระ โคโทโกะ ยื่นจดหมายรักให้กับชายในดวงใจที่อยู่ต่างห้องเรียนเป็นหนุ่มฮอตหน้าตาดีเรียนเก่งเป็นอัจฉริยะที่ชื่อ อิริเอะ นาโอกิ และถูกปฏิเสธในทันใด ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่านเลยสักนิด แต่จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุที่ชักนำให้โคโทโกะต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านของนาโอกิ ด้วยความต้อนรับของแม่ของอิริเอะที่เอ็นดูโคโทโกะมากและอยากให้มาเป็นสะใภ้ ในการสอบกลางภาค นาโอกิ ได้ติวเข้มให้กับโคโทโกะจนได้คะแนนอยู่ในระดับแนวหน้า เป็นเหตุให้ฏคโทโกะยิ่งเป็นปลื้มในตัวนาโอกิทวีคูณ



ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็ได้รู้แล้วว่า โคโทโกะ อาศัยอยู่บ้าน นาโอกิ เป็นเหตุให้เกิดเรื่องวุ่นชุลมุนแบบฉุดไม่อยู่ เหตุการณ์ในบ้านก็ใช่ย่อย เพราะแม่ของนาโอกิเจ้ากี้เจ้าการวางแผนจะให้ทั้งสองแต่งงานกัน แต่นาโอกิปฏิเสธอย่างแข็งขัน



เรื่องนี้สนุกตรงที่พระเอกซึนมากๆ ปากแข็ง พูดจาดูถูกนางเอกว่าโง่บ้าง ไม่ใช่สเป๊ค ตอนแรกๆ ก็ปฏิเสธนางเอกตลอดๆ แต่พออยู่บ้านเดียวกันไปนานๆ ก็หลงรักในความเปิ่นๆ โก๊ะของนางเอก แต่ก็ไม่ยอมรับจนนางเอกถอดใจจะไปรักคนอื่น พระเอกถึงได้รู้ใจตัวเอง สนุกจนนำไปทำเป็นซีรีย์ละครของไต้หวันและโด่งดังมากๆ



ตัวอย่างเล่ม 1 ลองดาวน์โหลดเลยค่ะ

แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 01

https://drive.google.com/file/d/1bgkHhOy7cCvXpx3xRiKhkJRe5ip6OWOX/view?usp=sharing
























































































ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์



ติดต่อแม่ค้า

ไลน์ fattycatty

อีเมล์ [email protected]




Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2019, 04:00:02 pm
TOP 10 SCARY JAPANESE URBAN LEGENDS

10. Teke-Teke


This is the Urban Legend about a girl who fell under a train and was cut in half. She became a vengeful spirit that moves using her hands and elbows, dragging herself while making the sound -Tek-Tek- … if you hear that noise, youre supposed to run. Those who are caught by the Tek Tek will recieve a fate like her - shes said to slash her victims in half so that they look like her, and possibly become wandering vengeful spirits as she is.

9. Slit Mouthed Woman


You may recognise this one from a number of Japanese movies and TV shows. The traditional name for this being is Kuchi-sake-onna and dates back over 300 years ago. She is a woman who was brutally mutilated by her husband after he found she was having an affair with another Samurai. This left her in death as a restless spirit. She is said to cover her mouth with a cloth mask, a fan or a scarf. If you approach her, shell ask you if you think shes pretty. If you answer yes, she will remove the mask and when the victim screams they will be slashed from ear to ear until they look like her. Even if you say no, shes said to follow you home and brutally murder you that night.

8. Daruma-san


This urban legend is more of an old game passed down through the years. You shower in a bath, turn off the lights and chant -Daruma-san fell down- while you wash your hair … its said that you will see a woman in your mind. She is Daruma-San. Shell be standing up in a bath. Youll see her slip and fall onto an old rusty tap. It goes straight through her eye and kills her. Then, you will feel her ghostly presence behind you. If you turn around - there she is. Black tangled hair, rotting clothes, one eye is bloodshot and the other is just a bloody, hollow eye socket. The game continues even further than that if you dare, but I think thats enough for you to understand this creepy urban legend.

7. Girl From The Gap


This Japanese story comes from peoples natural fear of what lies lurking in the cracks of a home. Do you ever see something move past the hinge of a door? Is that someone looking out from inside your wardrobe? Have you ever pictured a hand reaching out from between your bed and the floor? Well it could be the girl from the gap - a spirit that lives both physically and metaphorically -between worlds-. Its said that if you ever see her, she will ask if you want to play hide and seek. At that point the game is on. When you her between a gap again, shell drag you to an other worldly hell.

6. The Red Room


This is a very modern Japanese urban legend about a pop up ad thats red with black test. In a childs voice, it simply repeats the phrase -Do you like?-. A boy who got the popup tried to close it but it kept reappearing. Then, it changed to -Do you like red?- … he keeps trying to close it but it grows large and changes again to say -Do you like the red room?- … then, the site changes. All red and black. It has a list of names on it - his friends is at the bottom. And hand reaches out towards the boys neck from a video. tHE Ending gets even more twisted but guess what, its based on a real website. Its still out there. If you can find it, youll know the gruesome legend of the red room and if the horrible ending comes true for you.

5. The Human Pillars


This legend dates back to ancient times in Japan where its known as Hito-bashira. Back then, there was a belief that a human sacrifice sealed inside a structure would make a foundation more stable. This means that many old Japanese buildings are said to contain the spirits of the people who were sacrificed during their construction. One famous example is Matsue Castle where a woman was sealed inside the foundations during its construction. Now her spirit is said to haunt the castle and whenever a woman dances there, the castle shakes violently. Many building owners in Japan are open about their building being a Human Pillar.

4. The Snake Woman


This one comes from the old Japanese folklore pf Nure-onna which translates to wet woman. She is often described as having the head of a woman and the body of a snake - with long claws, snake eyes and jet black hair.  She carries with her a childlike bundle to lure in her victims. If a person tries to pick up the baby, they find its not a child at all. The bundle then becomes very heavy and stops the victim from fleeing. The snake woman then uses her long tongue to suck all of the blood from the victims body until they die.

3. Onibaba


She is a demon women that often appears in Japanese folk folklore. She will often appear as an old woman asking for help but if you get to close, she will slice you open with a knife and eat you. She is said to be the tormented spirit of a woman who accidently killed her pregnant daughter and unborn grandchild in an effort to find a cure for her friends child being sick. She was told to bring them the liver of an unborn child but when she finally killed her victims, she found they were her own family.

2. The Dream School


This one is extra creepy because apparently if you don't forget it within a week - it will happen to you. Lets see if this is true. One night, a boy had a dream about a school. The hallways looped forever, bringing him back to the start. Staircases led back to the first floor. As he got scared, he heard footsteps behind him. He ran until he found an emergency exit with a glass box and a key next to it. The glass had been smashed and there was a note saying it could be found in room 108. When he found that room, it was empty - no students - but there were backpacks hanging off every chair. There was a pounding on the door. He opened it, terrified, to find the hallways covered with dead children. Its said that he never woke up from his dream and if you don't forget the story in one week, youll meet the same fate. Don't worry though guys

1. Onryo


This is a traditional Japanese ghost belief about a vengeful spirt that can and will physically hurt the living. Its a very scary concept if youre only familiar with the western idea of ghosts which don't really take solid forms and so cant hurt humans with physical contact. Thats not true for an Onryo. They are vengeful and full of hate, stopping at nothing to enact the suffering they received when they were alive. For any of you guys who have seen The Grudge, this spirit is the influence for that creepy girl in that movie.






TOP 10 SCARY AMERICAN URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY MEXICAN URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY CANADIAN URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY IRISH URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY JACK THE RIPPER URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY BRITISH URBAN LEGENDS PART 2
TOP 10 SCARY HOSPITOL URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY BLOODY MARY URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY INDIAN URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY DISNEY URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY SWEDISH URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY CEMETERY URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY AMERICAN URBAN LEGENDS PART 2
TOP 10 SCARY MCDONALD'S URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY FRENCH URBAN LEGENDS
TOP 10 SCARY CHINESE URBAN LEGENDS PART 2
10 CREEPY URBAN LEGENDS FROM AROUND THE WORLD
5 CREEPIEST URBAN LEGENDS



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2019, 06:34:00 pm
ขายการ์ตูนตาหวาน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต การ์ตูนตาหวาน การ์ตูนผู้หญิง การ์ตูนสยองขวัญ การ์ตูนตาหวาน การ์ตูน Princess หมึกจีน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต โอนเงินแล้วดาวน์โหลดไฟล์ได้เลย

ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty
อีเมล์ [email protected]

ตัวอย่างการ์ตูน คลิ๊กลิ้งค์เพื่อดาวน์โหลดการ์ตูน
CHEESE 4
https://drive.google.com/file/d/0B2rHOMg8VlgMNVQ4ZEw2NFYwNFU/view?usp=sharing

การ์ตูนหัวใจไม่ร้างรัก ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์

การ์ตูนหัวใจไม่ร้างรัก 2 เล่มจบ

การ์ตูนรวมเล่มหายาก เล่มหนา ความยาว 1,200 กว่าหน้า เรื่องราวของ ทามาเตะ บก.นิตยสารแฟชั่น สาวสวยที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่อยากลาออกจากงานเพื่อมาเป็นแม่บ้านเพื่อปรนนิบัติสามี แต่อยากมีสามีที่เป็นพ่อบ้านคอยดูแลเธอ

ด้วยความที่ยุ่งกับงานและมีแนวคิดแบบนี้ ทำให้ไม่มีผู้ชายตกถึงท้องและทรมานกับการขาดเซ็กซ์ถึงหนึ่งปีแปดเดือน และเมื่อโชคชะตานำพาชายหนุ่มรูปหล่อที่สามารถตอบสนองความต้องการของทามาเตะได้อย่างถึงใจ แถมเขายังทำอาหารอร่อยอีกด้วย เป็นชายในฝันเลยก็ว่าได้ เรื่องราวเหมือนว่ากำลังจะดี แต่แล้วชายหนุ่มผู้นั้นกลับ...





























































ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์


ติดต่อแม่ค้า

ไลน์ fattycatty

อีเมล์ [email protected]



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 22, 2020, 12:18:14 am
ขายการ์ตูน pdf ออนไลน์ การ์ตูนแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 12 เล่มจบ

สั่งซื้อการ์ตูน แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 12 เล่มจบ ที่นี่



ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]

อาอิฮาระ โคโทโกะ ยื่นจดหมายรักให้กับชายในดวงใจที่อยู่ต่างห้องเรียนเป็นหนุ่มฮอตหน้าตาดีเรียนเก่งเป็นอัจฉริยะที่ชื่อ อิริเอะ นาโอกิ และถูกปฏิเสธในทันใด ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่านเลยสักนิด แต่จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุที่ชักนำให้โคโทโกะต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านของนาโอกิ ด้วยความต้อนรับของแม่ของอิริเอะที่เอ็นดูโคโทโกะมากและอยากให้มาเป็นสะใภ้ ในการสอบกลางภาค นาโอกิ ได้ติวเข้มให้กับโคโทโกะจนได้คะแนนอยู่ในระดับแนวหน้า เป็นเหตุให้ฏคโทโกะยิ่งเป็นปลื้มในตัวนาโอกิทวีคูณ



ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็ได้รู้แล้วว่า โคโทโกะ อาศัยอยู่บ้าน นาโอกิ เป็นเหตุให้เกิดเรื่องวุ่นชุลมุนแบบฉุดไม่อยู่ เหตุการณ์ในบ้านก็ใช่ย่อย เพราะแม่ของนาโอกิเจ้ากี้เจ้าการวางแผนจะให้ทั้งสองแต่งงานกัน แต่นาโอกิปฏิเสธอย่างแข็งขัน



เรื่องนี้สนุกตรงที่พระเอกซึนมากๆ ปากแข็ง พูดจาดูถูกนางเอกว่าโง่บ้าง ไม่ใช่สเป๊ค ตอนแรกๆ ก็ปฏิเสธนางเอกตลอดๆ แต่พออยู่บ้านเดียวกันไปนานๆ ก็หลงรักในความเปิ่นๆ โก๊ะของนางเอก แต่ก็ไม่ยอมรับจนนางเอกถอดใจจะไปรักคนอื่น พระเอกถึงได้รู้ใจตัวเอง สนุกจนนำไปทำเป็นซีรีย์ละครของไต้หวันและโด่งดังมากๆ



ตัวอย่างเล่ม 1 ลองดาวน์โหลดเลยค่ะ

แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก 01

https://drive.google.com/file/d/1bgkHhOy7cCvXpx3xRiKhkJRe5ip6OWOX/view?usp=sharing























































































ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]






Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2020, 12:54:37 am
ฝันพยากรณ์ ทํานายโชคชะตาและตัวเลขจากความฝัน ทำนายฝัน

ศาสตร์อันลี้ลับของความฝัน
พระนันทาจาริย์ปราชญ์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนาผู้แต่ง คัมภีร์สารัตถะสังคหะ และเป็นผู้ยืนยันว่า พระอรหันต์ไม่ฝันด้วย เหตุผลดังว่านั้น ได้ระบุมูลเหตุของความฝันไว้เป็นข้อคิดอยู่ 4 ประการคือ
1. ฝันโดยเป็นบุพนิมิต คือ บอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุ ดีหรือร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้น
2. ความฝันเกิดจากควงจิตที่ฝังพะวงหรือพัวพันอยู่กับ สิ่งหนึ่งก่อนหน้าจะหลับ จึงเก็บเอาสิ่งนั้นมาฝัน
3. เกิดจากอิทธิฤทธิ์ของเทวดาเพราะเทวดาต้องการให้ โทษหรือให้คุณ
4. ความฝัน เกิดจากธาตุกําเริบ กล่าวคือร่างกายไม่ปกติ ครั้นหลับลงจึงฝันไปในรูปต่าง ๆ

คัมภีร์อธิบายเรื่องฝันของพระนันทาจาริย์เล่มนี้ ครั้งหนึ่ง ได้เคยใช้เป็นหลักสูตรของตําราทางพระพุทธศาสนาแต่ต่อมา สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้ทรงยกเลิก และใช้เรื่องอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม ความฝันก็เป็นเรื่องที่บรรดานักปราชญ์ หลายชาติได้ให้ข้อคิดเห็นไว้ต่าง ๆ นานา และไม่ถึงกับจะลง ความเห็นว่า ความฝันเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียทีเดียวนัก เพราะ นักปราชญ์บางคนก็ถึงกับลงทุนค้นคว้าถึงสมุฏฐานหรือที่มาของ ความฝันกันอย่างเคร่งครัด โดยถือเอาว่า ความฝันเป็นจิตวิทยา อย่างหนึ่งของคนเราที่จะต้องศึกษาไว้ จนถึงกับทําเป็นตําราหรือ วิชาความฝันออกมาด้วยกันหลายเล่ม เป็นตําราที่เขียนขึ้นโดย นักปราชญ์หรือนักจิตวิทยาหลายชนิดและดูเหมือนว่าวิชาเรื่อง ความฝันนี้ จะเป็นตําราที่เก่าแก่กว่าวิชาอื่น ๆ ทั้งหลายในโลกก็ ว่าได้

นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง กล่าวว่า  “วิชาความฝันนั้น เป็นวิชาเก่าเท่ากับตัวโลกเอง”
คํากล่าวเช่นนี้ไม่ผิดนัก เพราะนักปราชญ์หลายคนยืนยัน เป็นเสียงเดียวกันว่าความฝันเป็นสิ่งที่มนุษย์รู้จักและเริ่มสนใจมา ตั้งแต่โบราณกาล และสืบทอดความสนใจในการค้นคว้ามาจน กระทั่งถึงทุกวันนี้ ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าไม่มีวิชาใดที่จะมีผู้ค้นคว้า หาความรู้กันมากเท่ากับวิชาความฝันนี้
เพราะตามบันทึกของ ศาสตราจารย์ ซิกมันด์ ฟรอยด์ นักปราชญ์ชาวออสเตรียนผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นทั้งนักจิตวิทยา และแพทย์ได้ใช้เวลาในการค้นคว้าหาความจริงในเรื่องความฝันนี้ โดยใช้การรวบรวมเรื่องความฝันนี้เรื่องเดียวว่ามีหนังสือวิชา ความฝันนี้ถึง 700 กว่าเล่ม เป็นภาษาต่าง ๆ ซึ่งมีภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาเลียน, สเปน, ลาติน, รัสเซีย, และ ฯลฯ และดูเหมือนว่า เยอรมันจะมีหนังสือประเภทนี้ออกมามากที่สุด รองลงไปก็คือ ฝรั่งเศส
ศาสตราจารย์ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ยอมรับว่า ความฝัน เป็นศาสตร์อันลี้ลับอย่างหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์เราที่ สามารถ จะบอกเหตุการณ์ทั้งอดีตและอนาคตได้ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งแม้ว่าจะมีบุคคลอีกหลาย ๆ คนที่ยังไม่ยอมรับและเชื่อถือใน เรื่องชนิดนี้ก็ตาม แต่บุคคลเหล่านี้ก็ไม่อาจสลัดความรู้สึกนึกคิด ในทางผูกพัน กับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนได้ฝันขึ้นทั้งดีและร้ายไป เสียที่เดียวได้นัก
เพราะความฝันบางเรื่องสามารถจะเป็นเหตุให้ผู้ฝันบางคน ได้รู้สิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย และรู้ถูกต้องตามความเป็นจริง เสียด้วย
ในทางไทยก็ยอมรับว่า ความฝันซึ่งเป็นเครื่องบอกเหตุ การณ์ล่วงหน้า เรียกว่า บุพนิมิต” นั้นมีอยู่จริง เช่น อย่างใน คัมภีร์ หรือตําราทางศาสนาที่อ้างถึง “พระมหาสุบินของ พระพุทธเจ้า และอย่างที่ไทยเราในสมัยยุคประวัติศาสตร์โบราณ เกือบทุกสมัย ก็ยังต้องมีโหรหลวงคอยทําหน้าที่ถวายคําทํานาย พระสุบิน ของพระมหากษัตริย์อยู่ด้วยทุกครั้งเสมอไป

อิทธิพลของตัวเลขในความฝัน
ความฝันของคนเราที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต เช่น มนุษย์ หรือ สัตว์ หรือกับสิ่งของต่าง ๆ ตามตําราทํานายฝันส่วนมากที่ให้ ความหมายของสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเลข มักจะมีส่วนใกล้เคียงกัน อยู่มาก ซึ่งอาจเกิดจากการสังเกตหรือพิจารณาเอาจากลักษณะ รูปร่าง หรือจุดเด่น หรือลําดับของตัวอักษรของสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มาเป็นหลักเกณฑ์ โดยใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์มานานหลาย ชั่วอายุคนแล้วก็ได้ จึงสามารถให้ความเชื่อถือต่อการทดลอง เปรียบเทียบในลักษณะที่เรียกว่า ใกล้เคียงหรือมีส่วนตรงกับ เป้าหมายได้เป็นส่วนมาก
เหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของตํารับเดิม จึงได้พยายามถอดเอา สิ่งที่ฝันถึงเหล่านี้ออกมาเป็น เลข" โดยถือเอาว่าเป็น “อิทธิพล อย่างหนึ่งของตัวเลข ที่บันดาลให้เป็นไปในมโนภาพแห่งความฝัน ของคนเรา ซึ่งแม้จะยึดถือเป็นหลักเกณฑ์ตายตัวหรือ “แม่นยํา ทีเดียวนักไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่บ้าง
จึงขอให้ผู้อ่านที่สนใจลองใช้ความสังเกต หรือลองหัด พิจารณาดูเองบ้าง หากจะผิดพลาดไปจากคําทํานายก็ขอให้ถือว่า เป็นส่วนประกอบในการหาความสนุกหย่อนใจหรือเป็นเครื่อง บันเทิงใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็แล้วกัน

หลักทํานายและการใช้วิธีสังเกตจากตํารับโบร่ําโบราณ เดิม มีดังนี้
ถ้าฝันเห็นกษัตริย์, พระราชินี, ประมุข, คนแก่หง่อม สูงอายุ, บิดามารดา, พระพุทธรูปบูชา, พระประธานในโบสถ์ พระแก้วมรกต, ฯลฯ มักจะเป็นเลข 9 (เฉพาะองค์พระราชินีนั้น ถ้าในฝันมีองค์พระราชายืนประทับเคียงข้างให้ถือเป็น 8 และ องค์กษัตริย์เป็น 9 ฉะนั้นเลขนี้จะต้องเป็นเลข 2 ตัว คือ 98 หรืออาจจะเป็น 29 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็นไก่, หนู ฯลฯ มักเป็นเลข 1 (ถือเอาว่า ก. ไก่ เป็นพยัญชนะตัวแรก และหนูเป็นปีแรกของปีเกิด หรือปี 12 นักษัตร คือ ชวด แปลว่า หนู)
ถ้าฝันเห็นเสาเรือนโดดเดี่ยว, ไม้ไผ่, ดินสอ, ก้านธูป หรือสิ่งที่เรียวยาว เช่น เส้นเชือกวิ่งตรง, เส้นหมี่ หรือ เสาธง (ไม่มีธง) ก้านไม้ขีด, ไม้บรรทัด, ไม้เรียว, บุหรี่ มักจะเป็นเลข 1
ถ้าฝันเห็นคนตาย, ศพ หรือโลงศพ มักจะเป็นเลข 4 (ในทางอิทธิพลของตัวเลขนี้ว่าเลข 0 แทน 4 หรือ 4 แทน 0 ได้ ฉะนั้นจึงเป็น 4 หรือ 0 ได้)
แต่ถ้าฝันเห็นคนที่ตายไปแล้วเป็นคนแปลกหน้าและเป็น "ผี" ในฝัน มักเป็นเลข 6 (ซึ่งแปลความหมายว่า ผีหลอก" คือ “ผีโกหก" คําว่าหลอกหรือโกหกจึงเท่ากับ 6)
ถ้าฝันเห็น หีบ ห่อ, กระเป๋าเดินทาง, โต๊ะ, เก้าอี้, เตียงนอน, วิทยุ หรือ สมุดหนังสือ หรือวัตถุสิ่งของที่มีรูปสี่เหลี่ยม มักจะเป็นเลข 4
ถ้าฝันเห็นกระแสน้ํา หรือ น้ํา มักเป็นเลข 2 (ถือเอา ลําดับจากธาตุทั้ง 4 คือ 1. ดิน 2. น้ํา 3. ลม และ 4. ไฟ เพราะฉะนั้นถ้าฝันเห็นดิน ก็มักตรงกับเลข 1 หรือฝันเห็น ไฟ ก็ มักตรงกับเลข 4)
ถ้าฝันเห็นแว่นตา, ถนนมผู้หญิงทั้งสองข้าง ปาก คน เป็ด, คนกอดอก, ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน ฯลฯ มักเป็นเลข 8 (คือ ถือเอาตามลักษณะและอักษรเช่นแว่นตามีวงกลม2วงต่อเนื่องกัน หรือนมสองข้าง ส่วนคําว่าปากและเป็ด ถือเอาตัวอักษร ป. เป็นความหมายของคําว่าแปด)
ถ้าฝันเห็นนก มักเป็น เลข 6 ทั้งนี้ไม่ถือตามตัวอักษร น. เป็น 1 แต่ถือเอาการออกเสียง “นก” ใกล้เคียงกับ หก หรือถือว่า นก คือ “วิหค” ก็ได้
ถ้าฝันเห็นเรือ มักเป็นเลข 5 (ตามความสังเกตว่า ร. เรือ มีลักษณะคล้ายตัวเลขอารบิคเลข 5 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็นผู้หญิงในวัยสาวถึงกลางคน มักเป็นเลข 5 แต่ถ้าฝันเห็นหญิงคนท้อง มักเป็นเลข 6 หญิงแก่ชราหรือมารดา มักเป็น เลข 9
ถ้าฝันเห็นพลับพลา, บ้านเรือน, อาคาร, หรือหลังคาบ้าน มักเป็น เลข 7
ถ้าฝันเห็นวงแหวน, กําไลมือ, หลุมหรือบ่อหรือวัตถุที่มี ลักษณะเป็นวงกลม หรือกลอง มักเป็นเลข 0 (บางตําราว่าแหวน มักจะตรงกับ เลข 6 ซึ่งอาจถือเอาคําว่า ว.แหวน มีลักษณะ คล้ายเลข 5 ของไทยก็ได้)
ถ้าฝันเห็นสามง่าม, คราด, ส้อม ช้อน, คทา, รถสามล้อ, จั่วหลังคา มักเป็น เลข 3
ถ้าฝันเห็นจิ้งจก, ตุ๊กแก, จรวด, เจว็ดศาล, จอบ มักเป็น เลข 7 (ถือเอาตามตัวอักษร จ. อยู่ในคําว่าเจ็ด ส่วนตุ๊กแกนั้นถือ เอาไม้ตรี () มีลักษณะเป็นเลข ๗ ของไทย)
ถ้าฝันเห็นวัวควาย, สุนัข, เรือ หรือสัตว์ 4 เท้า ส่วน มากมักเป็นเลข 4 แต่ให้สังเกตว่า ถ้าเป็นสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตรของปีเกิด คือปีชวด-ปีกุน ให้ถือ ชวด (หนู) 1, ฉลู (วัว) 2, ขาล (เสือ) 3, เถาะ (กระต่าย) 4, มะโรง (งูใหญ่) 5. มะเร็ง (งูเล็ก) 6. มะเมีย (ม้า) 7, มะแม (แพะ) 8. และวอก (ลิง) 9. ส่วนระกา (ไก่) เป็น 1 หรือ 10, จอ (สุนัข) เป็น 11 หรือ 4 กุน (หมู) เป็น 12 หรือ 4
ถ้าฝันเห็นแก้วน้ํา, แก้ว, เพชรพลอย มีค่ามักเป็น เลข 9
ถ้าฝันเห็นเบ็ดตกปลา (ตัวเบ็ด) ไม้เท้าถือ (มีหัวโค้งงอ เหมือนรูปตัว j) คันร่ม หรือสะพานโค้งมักเป็นเลข 6
ถ้าฝันเห็นกางเกง, เสื้อ, ตะเกียบทั้งคู่ รางรถไฟ และ รองเท้า (ทั้งคู่) มักจะเป็นเลข 2 (ถือเอาว่าสิ่งเหล่านี้มีเลขเป็นคู่ คือ 2 เช่น กางเกงมี 2 ขา หรือรองเท้าต้องมีคู่หรือ 2 ข้าง)
ถ้าฝันเห็นงูใหญ่ หรือพญานาค (ตามที่เข้าใจในฝัน) มัก จะเป็นเลข 5 คือถือเอาลําดับในปีเกิด 12 นักษัตร ถ้าฝันเห็นงูเล็ก ๆ หรืองูธรรมดาทั่วไป มักเป็นเลข 6 (ถือปี 12 นักษัตร เช่นเดียวกัน)
ถ้าฝันเห็นมือหรือเท้า มักเป็นเลข 5 (ถือเอาว่ามี 5 นิ้ว) แต่ถ้าฝันเห็นแขน หรือขา มักเป็น 2 (ถือเอาว่ามนุษย์เรามี 2 แขน 2 ขา) แต่ถ้าฝันเห็นมือ ในลักษณะกําแน่นหรือกําหมัด หรือกําปั้น มักเป็นเลข 6 หรือ 9 และถ้าฝันเห็น “มือจับ” เช่น จับปลา จับสิ่งของ ถือเอาลักษณะของการ “จับ” เป็นเลข 7 เช่น จับปลา ก็จะต้องเป็น 87 หรือ 78 เพราะปลาเข้าในลักษณะของเลข 8
ถ้าฝันเห็นว่าวจุฬา มักเป็นเลข 5 เพราะมีปลายทั้ง 5 คล้ายดาว แต่ถ้าเป็นว่าวปักเป้า ว่าวอีลุ้ม มักเป็นเลข 4 เพราะ เป็น 4 มุม
ถ้าฝันเห็นบันได มักเป็นเลขคี่ คือ 3, 5, 7.9 (เพราะบันได ส่วนมาก จะต้องสร้างขั้นบันไดให้เป็นเลขคี่ ฉะนั้นถ้าฝันสังเกต
ระยะความสูงหรือขั้นบันไดได้ ก็อาจจะมีความหมายเป็นเลขคี่ เลขใดเลขหนึ่งได้ใกล้ชิด)
ถ้าฝันเห็นภูเขาสูงใหญ่ มักเป็นเลข 9 ถ้าฝันเห็นจอมปลวก หรือตัวปลวก มักเป็นเลข 8
ถ้าฝันเห็นอุจจาระ หรือ ขี้ มักเป็นเลขคี่ (แต่ต้องสังเกต ว่า จํานวนของก้อนขึ้นั้นมากหรือน้อย แล้วตีความหมายให้ ใกล้เคียงเช่น จํานวนก้อน 2 ก้อน ก็อยู่ในราวเลข 1, หรือ 3 แต่ ถ้ามากก็ตีความหมายเป็น 5 หรือ 7 ได้ อย่าให้ถึง 9)
ถ้าฝันเห็น หมวก, มงกุฎ, ชฎา, ธงปักปลายยอด มัก เป็นเลข 9 (คือ ถือว่าเป็นของอยู่สูง)
ถ้าฝันเห็นกุ้ง มักเป็น 9 ถ้าฝันเห็นรวมกับปลาก็ต้อง ตีความหมายว่า 98
ถ้าฝันเห็นเต่า, ตะพาบ มักเป็น เลข 4 บางตําราว่าเลข 3 คือถือว่าตัวอักษร ต. ใกล้เคียงกับเลข ๓ ของไทย
ที่ยกมานี้ เป็นแนวทางตัวอย่างของอิทธิพลตัวเลขแทน สิ่งต่าง ๆ ในฝันตามเหตุผลของเจ้าของตํารับเดิมแต่โบราณกาลมา ซึ่งท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามที ก็ลองพิจารณสังเกตเอาตามที่ท่าน ฝันดูสัก 2-3 ครั้ง บางที่จะช่วยให้ท่านมีประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ขึ้นบ้าง



ฝันเห็นงูฝันเห็นงูสีขาวฝันเห็นงูเหลือมฝันเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ฝันเห็นงูเหลือมสีทองฝันเห็นงูใหญ่
ฝันเห็นงูตัวใหญ่ฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูลายฝันเห็นงูเขียวฝันเห็นงูเห่าฝันเห็นงูจงอาง
ฝันเห็นงูจงอางยักษ์ฝันเห็นงูจงอางเข้าบ้านฝันเห็นงูจงอางหลายตัวฝันเห็นงูจงอางกัดฝันเห็นงูจงอางเผือกฝันเห็นงูจงอางชูคอ
ฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่มากฝันเห็นงูจงอางตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูแมวเซาฝันเห็นงูหลามฝันเห็นงูตัวสีฟ้าฝันเห็นงูตัวสีดำ
ฝันเห็นงูตัวสีแดงฝันเห็นงูสีทองฝันเห็นงูหลายตัวฝันเห็นงูสองตัวฝันเห็นงูเผือกฝันเห็นงูหลาม
ฝันเห็นงูตัวใหญ่มากฝันเห็นงูตัวใหญ่สีดำฝันเห็นงูตัวใหญ่หลายตัวฝันเห็นพญานาคฝันเห็นพญานาคตัวใหญ่ฝันเห็นพญานาคสีทอง
ฝันเห็นพญานาคสีเขียวฝันเห็นพญานาคสีแดงฝันเห็นพญานาคเล่นน้ำฝันเห็นพญานาคไล่ตามฝันเห็นหงอนพญานาคฝันเห็นพญานาคสีเงิน
ฝันเห็นพญานาคหลายตัวฝันเห็นพญานาคพูดได้ฝันเห็นพญานาคพ่นน้ำฝันว่างูรัดฝันว่างูกัดฝันว่างูกัดขา
ฝันว่างูกัดเท้าฝันว่าฆ่างูฝันว่าตีงูฝันว่างูเลื้อยผ่านฝันว่างูกัดแขนฝันว่างูกัดนิ้ว
ฝันว่างูไล่กัดฝันว่างูฉกฝันว่ากินงูฝันว่าจับงูฝันว่างูเลื้อยขึ้นตัวฝันว่างูรัดขา
ฝันว่างูรัดแขนฝันว่างูรัดตัวฝันว่างูรัดขาขวาฝันว่างูรัดขาซ้ายฝันว่างูรัดแขนขวาฝันว่างูรัดแขนซ้าย




Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 02:59:33 pm
Japan through its urban legends: from Kuchisake onna to Kisaragi station

Fantastic and horror stories that were once told by word of mouth, like something that happened to someone you know, are now being transmitted through digital spaces. An expert in Japanese folklore tells us about the background and birth of this type of urban legends, and the social changes they represent.

An unknown woman, wearing a mask, comes across a child and asks him: "Am I beautiful?" The frightened child answers yes, and the woman removes her mask. "Now you think so too?" His lips part, opening up to his ears ... Almost every Japanese, of whatever age, has ever heard that story, called Kuchisake onna . In recent years it has also become famous abroad, as an example of a Japanese horror story.

According to Iikura Yoshiyuki, professor at Kokugakuin University and researcher of contemporary oral literature, "The story of Kuchisake onna is the most famous of all purely Japanese urban legends." How is this type of urban legend generated? How does it evolve over time?

Kuchisake onna , a warning about strangers
According to Iikura, at the end of 1978 a rumor began to spread about an elderly farmer from (so they say) Yaotsu, in Gifu prefecture, who claimed to have seen a woman with a mouth from ear to ear in a corner of her garden . "At the beginning of 1979 the newspaper Gifu Nichinichi Shinbun (now Gifu Shinbun ) reported on the rumors of Kuchisake onna , and among the children the story continued to circulate, more and more in detail exaggerated. The woman wore a mask, she wore a red coat .. They even said that he had a sickle in his hand, that he could run a hundred meters in six seconds, that he hated the smell of jelly and that if you gave him a piece of candy he would let you go. "

In just six months, the legend of Kuchisake onna left Gifu and spread to Aomori in the north and Kagoshima in the south. "An important factor in this was the fact that at that time the number of children studying in an academy after school increased a lot. Until then, urban legends had not had much opportunity to leave each school district, but in the academies , which had students from different centers, it was enough for a child to tell about something that had happened in his school for the others to be scared and, thinking that the same could happen in his own center, to tell it in turn to his classmates Some spoke by phone with relatives, and the information was even transmitted through other newspapers and even television networks. "

For children, Kuchisake onna was a terrifying image, and also a warning about strangers. "The academies began their classes in the afternoon, and then the children would flock to the streets and have to return to their homes at night, with what they saw a type of adults as they had never seen before: women with night jobs, people drunk as a vat ... The anxiety that caused them to think that perhaps one of those adults could harm them was projected on the figure of Kuchisake onna ".

"Initially teachers and parents were concerned, and patrolled the streets and routes between the school and the houses. In the early summer of 1979 the legends began to calm down. The striking image of Kuchisake onna , however, remained in the collective imagination , and was established as one of the prototypical ghosts of Japan. "

The first wave: rumors among the young
In the second half of the 1970s, when the Kuchisake onna legend began to spread , Japan's economic structures were changing; vehicles, telephone services, television and other infrastructures that would allow an urban cultural life had been established.

The expression "urban legend" was introduced in Japan in 1988, when a translation of The Vanishing Hitchhiker: American Urban Legends and Their Meanings was published. work of the American folklorist Jan Harold Brunvand. The young and energetic Japanese researchers of the moment translated the work to throw a stone into the quiet pool of Japanese folklore studies, until then based on ancient tales and traditional legends, with the purpose of indicating that investigating such rumors was equivalent to investigating the state of contemporary cities.

Brunvand defined urban legend as "an original story that happens to a friend of a friend, in the course of his everyday urban life." Stories like the hitchhiker who was actually a ghost, or the murderer who hides under the bed. Ghost hitchhikers are a motif that dates back to the 19th century and horse wagons, but they adapted as motor cars entered society, and the development of newspapers and other media facilitated their spread. For example, events that were read in the newspaper or heard on the radio were recounted in every corner of the United States as if they had happened there, adding local characteristics.

"In Japan in the second half of the eighties, word of mouth was everything. Suddenly, for some reason, high school and high school students were standing in long lines at ice cream parlor chains like Hobson's or 31 (Baskin-Robbins), or they all started carrying Boston bags. In urban areas, among students, when word spreads that something is fashionable, information spreads in the blink of an eye. This is an economy in which, On the way to the bubble the bubble, young people have achieved greater purchasing power: high school students and university students work part-time in chain restaurants and twenty-four-hour stores and make their own money. The marketing of the companies began in earnest to take into account that word of mouth from children. "

A representative example of the success of this type of marketing is Lotte's Koara no m?chi (March of the Koalas) cookies . A rumor spread among high school students that it was lucky to find a koala with eyebrows. As a result, the company expanded the variety of koala designs, creating a best-selling brand that celebrated its 35th anniversary in 2019.

"Other examples of the legends of that moment assure that it brings luck to touch the red loincloth of the character that appears drawn on the run in the trucks of the Sagawa transport company; and that the couples who get on a boat from the Shinobazu pond, in Ueno park, break. Magazines and other media picked up rumors like these and word of mouth in their posts, and presented them as 'urban legends.' Writers collected these kinds of stories and purposely exaggerated them, to generate a boom . A good example is the 'dog with a human face', which was presented by the famous Popteen magazine. It was said of him that he spoke like a person, that his face was like that of a middle-aged man, and that he was capable of chasing a car at speeds in excess of 100 kilometers per hour. "

"These urban legends reached the peak of their popularity in the early 1990s, and from 1995 they began to disappear. The Great Hanshin-Awaji Earthquake and the terrorist attack of the group Aum Shinriky? with sarin gas in the Tokyo subway took away people wanted to talk about ghosts. The media completely stopped talking about it. "

The Second Wave: Internet Horror Stories
At the beginning of the 21st century, urban legends experienced a second boom. "The first wave of urban legends came from the hand of rumors of children exaggerated by television, magazines and other media. As of 2000, 'text pages', such as blogs and the like, began to proliferate. A dedicated blog The collection of old urban legends became so popular that it was even published as a book; later all sorts of similar works on urban legends began to be published. Those who had been students at that time acquired them out of nostalgia, and the other generations became they were interested in the subject, helping its success. "

On the other hand, magazines and television networks have also published interesting stories that appeared on Ni channeru (Channel 2, a popular Internet forum), which have been forming a new corpus of Japanese urban legends. Well known are Kunekune the story of the strange white object found by an elementary school student in a rice field in a rural area; Kotoribako , the cursed birdcage; or Hasshaku sama , a terrible female monster of more than two meters. "These are horror stories that are too long to be told orally. These kinds of legends are constantly being generated on the Internet."

More or less from 2010, a new type of participatory stories began to appear, focused on social networks. One of them, The Kisaragi Station , has been counting for more than ten years, going from the original Nichanneru to Twitter. The origin of the story was published in 2004 in Nichanneru "I got on the train in Shinhamamatsu. It was the same train I always use, but we arrived at a station whose name did not ring a bell. What can I do?" It was posted as a query, with questions and answers, and the story continued from there.

"Someone summarizes the story on a separate page, and its contents are republished. The story is written in a false voice, to create the impression of being a conversation on the scene. People participate immediately, connecting to history and helping to create new urban legends. That is the main characteristic of the second wave in the web age . Also, many of them are horror stories. There is also, I think, the feeling of participating in a game of chase virtual game, a ghost simulation game or similar in which a mystery is experienced in the real world. "

Compared with urban legends that were previously transmitted mainly orally, stories that do so digitally oscillate between two extremes: they either barely change, or they change radically. "Since the oral transmission is based each time on the memory of the narrator, even if there are small variations, the plot does not change much. In the case of digital transmission, you can copy and paste the text, but you can also change everything that one wants to. The form of diffusion does not depend on time or distance either. The pace at which stories from abroad have also been accelerated. "

Starting in 2000, the legend of Kuchisake onna also began to spread on the Internet. In South Korea, for example, it adopted different shades from the original Japanese version, such as the red color of the mask. "In Okinawa, Taiwan, South Korea, China and other countries it is said that monsters can only walk in a straight line, so the Korean Kuchisake onna cannot turn a corner, or even climb stairs. boyfriend, a man with a shaved head, also wearing a mask. As legends are exported to countries with urban lifestyles, the stories are gradually adapted to incorporate elements of the culture of that place. "

Internet takotsubo culture and fake news
With the second wave of urban legends, some creators also appeared who made "art" of these stories. "Seki Akio, an ex-comedian, popular since 2006, is a representative example. He rose to fame originally from a variety show, in which he did a space in which various celebrities told urban legends. His motto," You decide whether to believe or not to believe ", he became very popular, and today he continues to perform in concerts and shows such as Yarisugi toshi densetsu (Excessive Urban Legends).

Recently the most popular are the videos of youtubers that analyze urban legends. "For example, the story called Elevator to the other world . If a person rides in an elevator of a building with more than ten floors and presses the buttons in a certain sequence, he can reach the other world. The youtuber in question tries it in reality".

Urban legends, which were once transmitted as if they had happened "to a friend of a friend", in this digital age are spreading even more widely and rapidly, as if they were fashionable games. However, according to Iikura, there are fewer and fewer urban legends that most people come into contact with.

"This is due to the takotsubo effect of the Internet: people who visit a web page tend to be grouped with people of the same opinion, and do not come into contact with other groups. Furthermore, fewer and fewer debate the authenticity of the information; they only believe in what they like, and consider false what they do not like, without questioning the possible interest that may exist in the ambiguity between what is true and what is false ".

Iikura regrets that political measures are currently being used internationally to project anxiety into people's reality. "It is something that applies to illegal immigrants, to China, to South Korea, even to Japan. Precisely because there is a sense of security in the idea that projecting that anxiety on Kuchisake onna or other ghosts is not the same as doing it on real people. . It seems to me that all over the world urban legends are losing ground. Across the globe there is a sense of blockage, and a desire for certainty amid vague insecurity. As it is, the growing number is ironic. of people who resort to fake news and the type of information that specialists call urban legends. "



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2021, 11:05:32 am
Top 10 Cheapeast Countries to Live in Europe 2019
One may think that Europe are mostly expensive countries, where expensive rental prices are the norm. However, the reality of European nations is quite different, while some countries are indeed expensive, others are surprisingly affordable. Here is the list of the cheapest countries to live in Europe, and why these countries are the best places to live:

10. Latvia
Latvia is a green country on the Northern coast of Europe. It's one of the cheapest places to live in developed Europe. Latvia boasts diverse top sectors, with many work opportunities for expats especially in international industries related to exports. Riga, the capital of Latvia, is a charming city. The cost of living in Europe is rarely dirt cheap, but Riga offers much of the quaint romance of western Europe at a lower cost, and without the madness of some western European countries. The food price can be quite cheap. Even some of the city’s better restaurants offer business lunches for as little as five euros, which come complete with coffee, tea, or sometimes even wine. Monthly rent for an 900 Sqft apartment in normal area is $500.

9. Belarus
Belarus is an eastern European country that borders Poland, Ukraine and Russia, its major industries include metal-cutting machines, tractors and trucks. With about $450 in monthly estimated expenses plus about $440 in monthly rent for a one-bedroom apartment in the center of Minsk, a single person can live comfortably on under $1,000 a month. But monthly rent for 85m2 (900 Sqft) furnished accommodation in normal area is only $340. The food can be really cheap. Usually, the dishes of Belarusian national cuisine are inexpensive even in restaurants ($7 for basic lunchtime menu in the business district). Living in Belarus means life in a laid-back and pleasant atmosphere; however, most of the services are still developing.

8. The Czech Republic
The Czech Republic is a cheap place to live in Europe. This European country borders Germany, Austria and Poland, and has a population of 10.6 million. However, if you travel away from Prague, the country offers excellent real estate bargains and pretty low cost of living. There are many picturesque towns in The Czech Republic, and you can get great real estate bargains on the country side, as foreigners and Czechs prefer to move to Prague. The standards of living in the Czech Republic is comparable to those of Germany, for half of the price. With around $800 per month you will be able to cover all of your basic costs in the country. It is also a great place for beer lovers, and those seeking nightlife, or outdoor activities.

7. Slovakia
Slovakia is not as cheap as Bulgaria, Romania, or Hungary, but it does offer better values than most of the rest of Europe, plus you get the advantage of feeling like a pioneer. Here you can eat well, drink well, and find plenty of sights to marvel over at a fraction of the cost of the countries to the west. You can get a big multi-course lunch and a glass or two of good wine for less than $10. Slovakia can offer to nationals and expats free education and healthcare systems, as well as an efficient infrastructure. Thanks to the rise in living standards and fall in unemployment, working in Slovakia is gaining in popularity with expats.

6. Poland
Poland has one of the higher local purchasing powers of the cheapest countries. Any incomes earned locally will go further, especially with the country’s lower prices on grocery and consumer goods. Poland is slowly becoming a hotspot for international travelers and expats. The big cities are very modern and have all the Western amenities you could need, but at half the prices spend in Germany. Teaching is an option, but there are also a whole set of professional service job opportunities to be found that can pay very well. Rent for a 1-bed apartment starts at around $350 and a meal out at an inexpensive restaurant is only around $5.

5. Hungary
One of the most thriving and best developed states in Central and Eastern Europe, Hungary represents a top destination for expats and tourists around the world. Hungary is certainly one of the best countries to live in Europe, even if it wouldn’t be quite cheap to live here. The monthly budget per person in Budapest starts from $700 per month to cover all  expenses. Real estate prices are picking up in the central districts of Budapest, and a budget of $1000 is enough to live in one of these areas. If you get into smaller towns, you can get a large house for that money. But the major urban areas are of course where jobs are more plentiful for expats hoping to work in Hungary.

4. Bulgaria
Bulgaria, one of the oldest in the Europe, is situated in south – east Europe. It is one of the cheapest countries in Europe to live and has quickly become a favorite among travelers. The Bulgarian people are some of the friendliest in Europe. With $1,000, you can have a better standard of living than the average of person living in countries such as Switzerland, Austria, Germany. This money will be enough for you to rent a 1-bedroom apartment, buy quality food, to go out with friends for a drink or to eat something, to buy clothes, and to go out to cinema regularly. Teaching English and tourism jobs are popular jobs here.

3. Romania
Romania is another country in Eastern Europe that offers great opportunities for expats. It has a diverse economy which includes self employed businesses, fast growing start ups, and high income job opportunities. The country has a delicious cuisine, a pretty affordable cost of living, and an unmatched natural beauty. The budget for a single person in Romania starts from $600 to cover all of his expenses. It is also easy to get a residence permit in Romania, even if you are not an EU citizen.

2. Ukraine
Ukraine is another eastern European nation situated next to Russia and the Black Sea. About 44.4 million people live in Ukraine, whose industries include coal, electric power, chemicals and more. More than 45% of expats saying that the cost of living is extremely affordable in Ukraine. Local incomes are still low, which gives it one of the lowest purchasing powers of the cheapest countries. Monthly rent for an apartment in normal area is $350.

1. Georgia
Georgia is a hidden gem that some people may not have heard of. With a famous wine region and sandy beaches along the Black Sea, the country offers stunning landscapes, a rich culture and very affordable living. From $500 per month you can already live in Georgia. However, anything above $1000 in Georgia will grant you a great lifestyle. The average net monthly salary in the country’s capital is just $300. Apart from its very low overall cost of living, the country has one of the most relaxed residence permit policy in Europe. With a very low investment and a company formation, you will be able to become a full time  resident of Georgia.

TOP 10 MOST BEAUTIFUL CITIES IN ASIA 2019
TOP 10 BEST AIRPORTS IN THE WORLD
TOP 10 MOST VISITED CITIES IN THE WORLD
TOP 10 MOST BEAUTIFUL CAPITALS IN THE WORLD
TOP 10 BEST PLACES TO VISIT IN SINGAPORE
10 AMAZING PLACES AROUND THE WORLD
TOP 10 CHEAPEAST COUNTRIES TO LIVE IN EUROPE 2019
7 BEAUTIFUL PLACES IN THE WORLD THAT YOU NEED TO SEE IN REAL LIFE





Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2022, 08:00:15 pm
10 อันดับนักฆ่าที่เริ่มต้นเส้นทางมืดตั้งแต่อายุยังน้อย
ดูเหมือนว่าคุณยังเด็กเกินไปที่จะเริ่มฆ่า ในขณะที่เด็กๆ ส่วนใหญ่เลือกกีฬา ศิลปะ หรือดนตรีเป็นงานอดิเรก แต่บางคนก็ตัดสินใจออกกำลังกายด้วยการฆาตกรรม นี่คือนักฆ่าสิบคนและอายุที่พวกเขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางมืด
10. ฮาร์วีย์ มิเกล โรบินสัน อายุ 17 ปี
Harvey Miguel Robinson มาจาก Allentown, Pennsylvania และเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดในแถวประหาร เขาอายุ 17 ปีตอนที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2535 ตำรวจจับโรบินสันเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2536 หลังจากที่เขาข่มขืนแต่ล้มเหลวในการฆ่าเดนิส กาลีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2536 โรบินสันกลับมาที่บ้านของกาลีซึ่งตำรวจรออยู่ เนื่องจากกาลีกัดแขนของโรบินสันระหว่างการโจมตีครั้งแรกก่อนที่จะหลบหนี ตำรวจจึงสามารถจับคู่รอยกัดกับโรบินสันและตัดสินลงโทษเขาได้ ตำรวจอัลเลนทาวน์ยังเชื่อมโยงโรบินสันกับการข่มขืนและสังหารผู้หญิงสามคนต่อไปนี้:
Joan Burghardtผู้ช่วยพยาบาลอายุ 29 ปี (สิงหาคม 1992)
Charlotte Schmoyer นักข่าวหนังสือพิมพ์The Morning Call อายุ 15 ปี (มิถุนายน 1993)
Jessica Jean Fortney : คุณยายวัย 47 ปี (กรกฎาคม 1993)
ศาลตัดสินให้โรบินสันมีความผิดฐานข่มขืนและฆ่าชโมเยอร์ เบิร์กฮาร์ด และฟอร์ทนีย์เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 และตัดสินประหารชีวิตเขาทั้งสามคดี ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2538 ศาลยังตัดสินให้เขาข่มขืนเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ และพิพากษาจำคุกเพิ่มอีก 57 ปี ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 โรบินสันไม่พอใจโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆาตกรรมโจน เบิร์กฮาร์ด เพราะเขาอายุเพียง 17 ปีในขณะนั้น นอกจากนี้ เขายังแลกเปลี่ยนสิทธิในการอุทธรณ์เป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีชโมเยอร์เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2555 จนถึงปี 2020 เขายังคงมีโทษประหารชีวิตสำหรับคดีฆาตกรรมที่ฟอร์ตนีย์

9. เครก ไพรซ์ อายุ 13 ปี
Craig Chandler Price มาจาก Warwick, Rhode Island และปัจจุบันถูกคุมขังที่เรือนจำรัฐฟลอริดาใน Raiford เครกอายุ 13 ปีเมื่อเขาฆ่ารีเบคก้า สเปนเซอร์ วัย 27 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่สองประตูจากบ้านของเขา ราคาแทงสเปนเซอร์ 58 ครั้ง เขาไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมของสเปนเซอร์ แต่สารภาพว่าเป็นคนก่ออาชญากรรมเมื่อตำรวจจับเขาได้ในอีกสองปีต่อมาในข้อหาฆ่าเพื่อนบ้านอีกสามคนในขณะที่เสพยาในปี 1989 เหยื่อคือ Joan Heaton วัย 39 ปีและลูกสาวของเธอ Jennifer และ Melissa ซึ่งอายุ 10 และ 8 ปี เขาแทงพวกเขามากกว่า 30 ครั้งด้วยบาดแผลลึกจนด้ามมีดหัก เขายังทุบกะโหลกของเมลิสสาด้วย ราคาไม่ได้แสดงอาการสำนึกผิดในการฆ่า Heatons แม้แต่เลียนแบบเสียงร้องความตายของพวกเขา เนื่องจากอายุของเขา ไพรซ์จึงไม่สามารถเผชิญกับการพิจารณาคดีได้ และได้มอบหมายให้สถาบันราชทัณฑ์เด็กและเยาวชนชื่อโรงเรียนฝึกโรดไอแลนด์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2547 ไพรซ์ได้ย้ายจากโรดไอแลนด์ไปฟลอริดาเนื่องจากมีแนวโน้มความรุนแรง นอกจากนี้ เขาถูกปฏิเสธทัณฑ์บนในเดือนมีนาคม 2009 แม้ว่าศาลจะกำหนดวันปล่อยตัวเขาในเดือนพฤษภาคม 2020 พวกเขาตัดสินให้เขาเพิ่มอีก 25 ปีในวันที่ 18 มกราคม 2019 ในข้อหาแทงนักโทษ Joshua Davis เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2017

8. จัสมิน ริชาร์ดสัน อายุ 12 ปี
จัสมิน ริชาร์ดสันและโรมิโอของเธอ เจเรมี สไตน์เก้ พลิกเรื่องราวคลาสสิกของความรักต้องห้าม แทนที่จะฆ่าตัวตาย พวกเขาฆ่าทุกคนที่ขวางทาง Richardson เริ่มออกเดทกับ Steinke วัย 27 ปีเมื่ออายุได้ 12 ปี หลังจากพบกันที่งานแสดงพังค์ร็อกในปี 2549 อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของเธอไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของพวกเขาเนื่องจากอายุห่างกัน เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2549 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจลอบสังหารโดยสังหาร Marc และ Debra พ่อแม่ของ Richardson และ Jacob น้องชายวัย 8 ขวบของเธอ เพื่อนบ้านอายุ 6 ขวบพบศพในบ้านของริชาร์ดสันที่เมดิซีนแฮท อัลเบอร์ตา แคนาดา Steinke ยอมรับกับตำรวจว่า Richardson ต้องการให้พ่อแม่ของเธอตายเพื่อที่เธอจะได้เป็นอิสระจากพวกเขา เขายังบอกพ่อของเธอว่า “นี่คือ สิ่งที่ลูกสาวของคุณต้องการ ” ขณะที่มาร์คเสียชีวิตจากบาดแผลถูกแทง จัสมิน ริชาร์ดสันเป็นคนแทงน้องชายของเธอที่คอ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ศาลตัดสินให้ริชาร์ดสันและสไตน์เกะมีความผิด 3 กระทงในข้อหาฆาตกรรมระดับแรก ริชาร์ดสันเป็นหนึ่งในคนที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกตัดสินลงโทษในคดีฆาตกรรมระดับแรกหลายครั้งในแคนาดา อย่างไรก็ตาม นักโทษอายุต่ำกว่าสิบสี่ในแคนาดาไม่สามารถรับโทษจำคุกเกินสิบปีได้ ในทางตรงกันข้าม Steinke ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต 3 ครั้งในวันที่ 15 ธันวาคม 2551 Richardson เริ่มเข้าเรียนที่ Mount Royal University ใน Calgary, Alberta ในช่วงปีสุดท้ายของการถูกตัดสินจำคุก และได้รับการปล่อยตัวเข้าโรงพยาบาลจิตเวชในปี 2011 ด้วยหลักฐานของการฟื้นฟูสมรรถภาพ Richardson จบประโยคของเธอในเดือนพฤษภาคม 2016

7. แมรี่ เบลล์ อายุ 10 ขวบ
ด้วยชีวิตที่ยากไร้และแม่ที่พยายามจะฆ่าเธอหลายครั้ง แมรี่ เบลล์จึงตัดสินใจเดินไปทางมืดก่อนวันเกิดปีที่ 11 ของเธอ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 เบลล์ได้พามาร์ติน บราวน์วัย 4 ขวบไปที่บ้านร้างในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ และบีบคอเขาจนเสียชีวิต แม้ว่าในเวลาต่อมาเธอได้ทิ้งบันทึกที่สารภาพว่าเป็นคนฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่ได้จริงจังกับเธอ สองเดือนต่อมา เธอฆ่าอีกครั้ง เบลล์ทิ้งร่างของไบรอัน ฮาววัย 3 ขวบไว้ในบริเวณเดียวกับที่เธอทิ้งให้บราวน์ คราวนี้ตำรวจจับเธอในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2511 ศาลตัดสินลงโทษเธอในข้อหาฆาตกรรมเนื่องจากความรับผิดชอบลดลง จิตแพทย์ที่ศาลแต่งตั้งอธิบายว่าเธอมีอาการทางจิตเวชแบบคลาสสิก รายงานของตำรวจระบุว่าเธอแกะสลักตัว “M” ลงในร่างของฮาวและทำร้ายเขา ซึ่งรวมถึงการใช้กรรไกรตัดอวัยวะเพศของเขาด้วย เบลล์ใช้เวลา 12 ปีในคุก เธอได้รับการปล่อยตัวในปี 1980 เมื่ออายุ 23 ปี ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับลูกสาวด้วยเอกลักษณ์ใหม่

6. โจเซฟ แมคเวย์ อายุ 10 ขวบ
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2011 ที่บ้านของพวกเขาในโฮล์มส์เคาน์ตี้ รัฐโอไฮโอ โจเซฟ แมคเวย์ อายุ 10 ขวบ ยิงแม่ของเขา เดโบราห์ แมคเวย์ อายุ 46 ปี ตามที่น้องสาวของเขา ชอว์นา แมคเวย์ โจเซฟเบื่อที่จะต่อสู้กับแม่ของเขาและใช้ ปืนไรเฟิลลำกล้อง 22 ที่จะยิงเธอ จากนั้นเขาก็เดินไปที่บ้านของเพื่อนบ้านที่เรียกว่า 911 และบอกรีบ“ ผมยิงแม่ของฉัน ฉันยิงเธอด้วยปืน” โจเซฟสารภาพในข้อหาฆาตกรรมหนึ่งครั้งในวันเดียวกับที่เกิดเหตุ ศาลพบว่าเขาไร้ความสามารถสำหรับการพิจารณาคดีจนถึงต้นปี 2556 เมื่อพวกเขาตัดสินเขาในศาลเยาวชนเมื่ออายุ 13 ปี แรงจูงใจอย่างเป็นทางการคือโจเซฟกำลังโต้เถียงกับแม่เรื่องงานบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการนำฟืนมาจากภายนอก เขาจึงยิงที่หัวของแม่แทน อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่าเจตนาที่จะฆ่านั้นเกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว การสัมภาษณ์สมาชิกในครอบครัวและผู้บริหารโรงเรียนระบุว่าแม่ของเขาถูกทำร้ายทางร่างกาย ทางอารมณ์ และทางวาจา โจเซฟยังแสดงให้เห็นสัญญาณของความโกรธและความก้าวร้าวก่อนการฆาตกรรม เช่นในเดือนกันยายน 2550 เมื่อเขาตบผู้บริหารโรงเรียนด้วยที่โกยผง

5. Cayetano Santos Godino อายุ 9 ขวบ
Cayetano Santos Godino หรือที่เรียกว่า El Petiso Orejudo หรือ Macrotous Runt , เป็นฆาตกรต่อเนื่องและวางเพลิงจากบัวโนสไอเรสอาร์เจนตินาที่เริ่มต้นลงเส้นทางหนุ่มฆ่าเขา เขาทุบตีเด็ก 2 ขวบ ทิ้งเขาไว้ในคูน้ำตอนอายุ 7 ขวบ และทุบตีเด็กอีกคนด้วยก้อนหินเมื่ออายุได้ 8 ขวบ เนื่องจากอายุยังน้อย ตำรวจจึงปล่อยเขาออกจากคุก แต่การทุบตีเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อีกหนึ่งปีต่อมาในปี 1906 โกดิโนฆ่ามาเรีย โรซา เฟซ วัย 3 ขวบและหนีไปได้จนกระทั่งเขาสารภาพกับตำรวจหลายปีต่อมาว่าเขาบีบคอเธอและฝังทั้งเป็นไว้ในคูน้ำ ไม่มีใครเชื่อมโยงเขากับอาชญากรรม ในปี 1912 ก่อนที่เขาจะอายุ 16 ปีในเดือนตุลาคม Godino ได้เริ่มการทำลายล้างครั้งใหญ่ การโจมตีของเขารวมถึง:
อาร์ตูโร เลาโรนา : อายุ 13 ปี ถูกฆ่าและถูกทิ้งไว้ในบ้านร้าง (26 มกราคม)
Reyna Vainicoff : เด็ก 5 ขวบถูกฆ่าโดยจุดไฟเผาชุดของเธอ (7 มีนาคม)
โรแบร์โต รุสโซ : เด็ก 8 ขวบ สำลักแต่รอด (8 พฤศจิกายน)
Carolina Neolener : เด็ก 2 ขวบถูกลักพาตัวแต่ได้รับการช่วยเหลือ (20 พฤศจิกายน)
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2455 ในที่สุดตำรวจก็จับกุมและจำคุก Godino หลังจากที่เขาสังหาร Jesualdo Giordano Godino พา Giordano ไปที่บ้านในชนบท พยายามบีบคอเขา ทุบตีเขา และในที่สุดก็ฆ่าเขาด้วยการตอกตะปูที่ด้านข้างของกะโหลกศีรษะของเขาหลังจากเหตุการณ์นี้ โกดิโนเข้าไปในศูนย์กักกันเยาวชนเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2456 รายงานทางการแพทย์ระบุว่าเขาวิกลจริตหลังจากที่เขาพยายามฆ่าผู้ต้องขังบางคน ผู้พิพากษายุติคดีและสั่งให้เขาอยู่ตรงกลาง การอุทธรณ์อนุมัติให้เขาย้ายกลับเข้าคุกเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ต่อมาโกดิโนย้ายไปอยู่ที่เรือนจำอูชัวเอเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2466 ซึ่งเขาเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2487

4. คริสเตียน โรเมโร 8 ขวบ
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2551 Christian Romero จาก St. Johns, Arizona ได้กระทำการฆาตกรรมสองครั้งเมื่ออายุแปดขวบ เขาถูกกล่าวหาว่าฆ่า Vincent Romero พ่อของเขาด้วยปืนไรเฟิลขนาด 22 ลำก่อนที่จะยิงเพื่อนในครอบครัวที่เช่าห้องที่บ้านของพวกเขา Tim Romansโรเมโรสารภาพในข้อหาฆาตกรรมโดยประมาทหนึ่งครั้งในปี 2552 ฐานฆ่าชาวโรมัน แต่ศาลไม่เคยตั้งข้อหาเขาถึงการตายของพ่อ แม้จะสงสัยว่าเป็นการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม อัยการ Michael Whiting อธิบายว่าการฆ่าพ่อของเขาถูกยกเลิกเพราะเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของ Romero ที่ศาลไม่ได้บังคับให้เขายอมรับการสังหาร โรเมโรอาศัยอยู่ภายใต้การดูแลของศาลสูงอาปาเช่เคาน์ตี้ในบ้านของกลุ่มที่ปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแล เงื่อนไขการคุมประพฤติของเขารวมถึงการรับการรักษาและการประเมินสุขภาพจิตแทนการลงโทษ ในปี 2015 จูลี่ นิโคลสัน เจ้าหน้าที่คุมประพฤติอาปาเช่ วัย 15 ปี แนะนำให้เข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐในปี 2558

3. Carroll Cole, 8 ขวบ
แคร์โรลล์ โคลเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 ในเมืองซูซิตี้ รัฐไอโอวา เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เริ่มสังหารเมื่ออายุได้ 8 ขวบ หลังจากที่ครอบครัวของเขาย้ายไปริชมอนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โคลถูกน้องสาวทำร้ายทางอารมณ์ที่บ้านและบ่อยครั้ง ถูกล้อเลียนที่โรงเรียน ในปี 1947 เขาตอบโต้กับ Duane เพื่อนร่วมชั้นวัย 8 ขวบด้วยการจมน้ำตายในทะเลสาบ แม้ว่าในขณะนั้น ทางการตัดสินว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่โคลสารภาพหลายปีต่อมาในอัตชีวประวัติว่ามันเป็นความตั้งใจในช่วงวัยรุ่น โคลก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ หลายครั้ง ถูกปลดจากกองทัพเนื่องจากประพฤติตัวไม่ดี และในปี 1960 โคลได้ทำร้ายคู่รัก 2 คู่ในรถที่จอดอยู่ในเลนของคู่รัก เขาพยายามจะบีบคอผู้หญิงจำนวนมากในปีต่อๆ มา รวมถึงเด็กหญิงอายุ 11 ปีในรัฐมิสซูรีด้วย อาชญากรรมนี้ทำให้เขาต้องโทษจำคุกห้าปี นับตั้งแต่การฆาตกรรมครั้งแรกของเขาเมื่ออายุได้ 8 ขวบ โคลไม่สามารถฆ่าได้อีกจนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 เมื่อเขาบีบคอเอสซี แอล. บัคจนตาย อย่างไรก็ตาม จนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2523 ตำรวจได้จับกุมโคลในข้อหารัดคอผู้หญิงสามคนในเท็กซัสจนเสียชีวิต ศาลตัดสินให้โคลในคดีฆาตกรรมทั้งสามคดีเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2524 และเขาถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2528 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โคลอ้างว่าเขาได้หลบหนีไปพร้อมกับการฆาตกรรมของผู้หญิงอีกอย่างน้อยสิบสี่คนในช่วงเก้าปี ก่อนปี 1980

2. อมารี ศดา อายุ 7 ขวบ
อามาร์ดีป ซาดา หรือที่รู้จักในชื่อ อมรจีต ไม่เพียงแต่เริ่มฆ่าเด็กแต่ยังมีเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดด้วย การฆาตกรรมสามครั้งของเขาในแคว้นมคธ ประเทศอินเดีย ล้วนแต่เป็นทารกอายุต่ำกว่าหนึ่งปี เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เขาฆ่าน้องสาววัย 8 เดือนและลูกพี่ลูกน้องอายุ 6 เดือน แต่หนีไปได้เพราะพ่อแม่ของเขาช่วยปกปิดความผิด ชาวบ้านบางคนรู้ถึงการสังหารดังกล่าวด้วยแต่ไม่ได้รายงานเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของครอบครัว อีกหนึ่งปีต่อมา ในเดือนมกราคม 2550 เขาฆ่าคุชบู ลูกสาววัย 6 เดือนของเพื่อนบ้าน ในที่สุดตำรวจก็จับเขาได้ ซาดาสารภาพอย่างมีความสุขที่ได้พาคุชบูออกจากสถานรับเลี้ยงเด็ก รัดคอเธอ และเอาหินทุบศีรษะเธอ เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดของอินเดีย ตำรวจ Bhagwanpur ในหมู่บ้าน Musahari กล่าวว่า Sada ยิ้มมากและพูดน้อยมากเมื่อถูกสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมของเขา Shamshad Hussain นักจิตวิเคราะห์กล่าวว่า Sada เป็นพวกซาดิสม์ที่มีความสุขจากการถูกทำร้าย อย่างไรก็ตาม อดีตศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยปัฏนากล่าวว่าเขาไม่มีความรู้สึกถูกหรือผิด ผกก.อมิต โลธา ประกาศคดีนี้ว่าเป็นคดีจิตเวช และศดาจำเป็นต้องได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ เมื่อพบว่าเขามีสารเคมีไม่สมดุลและต้องการความช่วยเหลือ ซาดาจึงลงเอยในบ้านเด็กจนกระทั่งอายุ 18 ปี

1. คาร์ล นิวตัน มาฮาน 6 ขวบ
ในขณะที่มีอาจจะเป็นฆาตกรเด็กกว่าที่ได้ไปกับการก่ออาชญากรรมของพวกเขาคาร์ลมาฮันนิวตันได้อ้างชื่อของ นักฆ่าที่รู้จักกันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน เขากลายเป็นจำเลยคดีฆาตกรรมที่อายุน้อยที่สุดของรัฐเคนตักกี้หลังจากใช้ปืนลูกซองขนาด 12 เกจเพื่อฆ่าเพื่อนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2472 มาฮันต่อสู้กับเซซิล แวน ฮูส วัย 8 ขวบในเมืองเหมืองถ่านหินที่ยากจนเพื่อขายเศษเหล็ก ในที่สุดฮูสก็ตบหน้ามาฮันด้วยเศษเหล็กมาฮันวิ่งกลับบ้านเพื่อไปเอาปืนลูกซองของพ่อเขาก่อนจะพูดกับฮูสว่า “ฉันจะยิงแก!” และเหนี่ยวไก ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา Mahan ถูกพิจารณาคดีในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งเขามักจะนอนอยู่บนโต๊ะทนายฝ่ายจำเลยหรือหลับใหล คณะลูกขุนตัดสินให้ Mahan กระทำความผิดฐานฆาตกรรม และผู้พิพากษาตัดสินให้เขาได้รับโทษจำคุก 15 ปีจากโรงเรียนปฏิรูป มีความคิดเห็นของประชาชนที่ขัดแย้งกันว่าการฆ่าคนตายรุนแรงเกินไปหรือไม่เพียงพอต่อการลงโทษ ผู้พิพากษาศาลวงจรพลิกคำพิพากษาโดยกล่าวว่าผู้พิพากษามณฑลควรตัดสินคดีเด็กและเยาวชน ในที่สุด อัยการสูงสุดของรัฐเคนตักกี้ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และประกาศว่าเขาจะไม่ดำเนินการใดๆ กับมาฮัน มาฮันได้รับอนุญาตให้อยู่กับพ่อแม่ของเขา



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 10, 2022, 01:33:07 am
ขายการ์ตูนตาหวาน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต การ์ตูนตาหวาน การ์ตูนผู้หญิง การ์ตูนสยองขวัญ การ์ตูนตาหวาน การ์ตูน Princess หมึกจีน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต โอนเงินแล้วดาวน์โหลดไฟล์ได้เลย

ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์
การ์ตูนโรแมนติก Romance หมึกจีน เล่ม 324

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]

ตัวอย่างการ์ตูน คลิ๊กลิ้งค์เพื่อดาวน์โหลดการ์ตูน
CHEESE 4
https://drive.google.com/file/d/0B2rHOMg8VlgMNVQ4ZEw2NFYwNFU/view?usp=sharing

เจ้าสาวพลิกล็อก
ทนไม่ไหวแล้ว ลาออก...! ไม่ยอมก็จะออก เป็นเลขาก็จริง แต่งานหาคู่แต่งงานให้เจ้านายเนี่ยนะ มันใช่เรอะ ในเมื่อฉัน... ก็รักเขา...!!!

เจ้านายของฉันคือ เจค มอน ดรากอน เป็นนักธุรกิจหนุ่มของนิวยอร์ก แต่ตอนนี้เป็นกษัตริย์แห่งรุทีเนีย... เมื่อ 3 ปีก่อน รุทีเนียเกิดการปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์กอบกู้สถาบันกษัตริย์ขึ้นใหม่ อดีตกษัตริย์ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่อเมริกาก็เพิ่งเสด็จสวรรคต เจคพระโอรสจึงถูกเรียกตัวกลับกะทันหันเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ ฉันเป็นเลขาเขาที่นิวยอร์ก ก็ได้ติดตามมารุทีเนียด้วยและได้ช่วยงานสร้างชาติของเขาอย่างเต็มที่ แต่ว่า...งานคัดเลือกเจ้าสาวให้ฝ่าบาท เพียงงานนี้เท่านั้นที่ช่วยไม่ได้จริง
 
ผู้สมัครเป็นเจ้าสาวล้วนเป็นบุตรสาวของผู้มีอิทธิพลแถวหน้าภายในประเทศ ฉันต้องทำรายชื่อผู้สมัครทั้งที่ไม่เต็มใจ... พวกสาวผู้สมัครก็เสน่ห์แรงกันทุกคน ส่วนคุณก็ได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยที่นิวยอร์ก ฝ่าบาท ฉันแอบรักคุณมาตลอด ตั้งแต่มารุทีเนีย ฉันก็ทำงานเต็มที่เคียงข้างคุณมาตลอด 3 ปี ฉันอยากเห็นรอยยิ้มมีเสน่ห์นั้น

กษัตริย์หนุ่มองค์ใหม่ทรงกอบกู้เศรษฐกิจที่เคยล้มละลายของรุทีเนียด้วยฝีมือการบริหารจัดการที่บ่มเพาะจากอเมริกา ฉันภูมิใจในความสามารถและความเข้มแข็งนั้นราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป แต่คุณจะมีเจ้าสาวอยู่เคียงข้างแล้ว ฉันเป็นแค่เลขา ควรต้องหลีกทางนะ ลาก่อนเจค ปาร์ตี้คืนนี้จะเป็นงานสุดท้าย

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]










































































ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2022, 10:36:52 am
ขายการ์ตูนตาหวาน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต การ์ตูนตาหวาน การ์ตูนผู้หญิง การ์ตูนสยองขวัญ การ์ตูนตาหวาน การ์ตูน Princess หมึกจีน แบบ pdf ดูในคอมพิวเตอร์หรือมือถือหรือแท็บเล็ต โอนเงินแล้วดาวน์โหลดไฟล์ได้เลย

ดูรายชื่อการ์ตูนได้ที่ สั่งซื้อการ์ตูนตาหวาน PDF ขายการ์ตูนออนไลน์
การ์ตูนโรแมนติก Prince หมึกจีน เล่ม 5

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]

ตัวอย่างการ์ตูน คลิ๊กลิ้งค์เพื่อดาวน์โหลดการ์ตูน
CHEESE 4
https://drive.google.com/file/d/0B2rHOMg8VlgMNVQ4ZEw2NFYwNFU/view?usp=sharing











































ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]




Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2022, 10:01:45 pm
ขายการ์ตูนหมึกจีน pdf เล่มละ 10 บาท
ดูรูปหน้าปกได้ที่นี่

https://mangaviewcover.blogspot.com/2019/06/blog-post.html

https://mangaviewcover.blogspot.com/2019/12/2.html

https://mangaviewcover.blogspot.com/2020/05/3.html

ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]


พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาอาถรรพ์
PRINCESS 12
PRINCESS 13
PRINCE 5
HOT LOVE 6
STRAWBERRY 15
จอมใจเจ้าทะเลทราย
ชีคละอ่อนย้อนรอยรัก
เจ้าสาวในชุดขาว
วิวาห์พลิกล็อค
เจ้าสาวกลัวฝน
มัจจุราชหลอนใจ
Maguro
Sakura 28
CHEESE 23
LADY 71
CHIORI
PRINCESS 65
SHEIKH
ROMANCE 236
ROMANCE 34
รักเธอแต่เผลอปากแข็ง
ศัตรูคู่หัวใจ
SAKURA 18
สยบรักหนุ่มเพลย์บอย
หลุมพรางรักดักหัวใจ
LADY 78
PRINCESS 14
VENUS 18
หนุ่มน้อยคอยรัก
LOVE DIARY 8
LADY 34
FANTASIA 1
ROMANCE 332
รักหวานฉ่ำสองเรา
เขาเอ๋อเหรอเธอสุดห้าว
ยมทูตยอดรัก
ROMANCE 282
รักจนได้นายสุดเกลียด
ROMANCE 50
ROMANCE 281
LADY 30
ปิ๊งรักในห้องสมุด
สยบหัวใจนายแวมไพร์
CHEESE 4
LADY 53
MADAM 14
ROMANCE 13
TEENAGE 53
เคานท์หนุ่มในฝัน
จูบแก้แค้น
เจ้าสาวผิดตัว
เทพบุตรยอดรัก
สามีคืนเดียว
DARLING 24
HELLO 37
HELLO 42
HONDA
LADY 56
พ่อหนุ่มแสนหวาน
LADY 41
ROMANCE 325
LOVE DIARY 5
PINK 21
รักยกกำลังสอง
ROMANCE 160
ราชันย์เจ้าดวงใจ
SERIES ROMANTIC 7
SUGAR 15
SWEET TEENAGE 1
จูบหวานเจ้านายจอมโหด
หวานใจช่างร้ายเหลือ
เจ้าสาวตัวปลอม
ASARI
HIROSHIMA
LADY 33
LADY 37
PRINCESS 67
LADY 57
HELLO 1
LADY 83
MAYA
PRINCESS 15
ODEN
RIKA
ROMANCE 38
ROMANCE 102
รักเดียวที่ปรารถนา
TABOO 35
SEVENTEEN 25
SIXTEEN 14
TEENAGE 42
คู่รักดาวโรงเรียน
เจ้าหญิงจำแลงรัก
รักใต้ทะเลดาว
SERIES ROMANTIC 2
รักวัยซนคนกันเอง
DARLING 19
HELLO 12
HELLO 39
LADY 40
LADY 74
LADY 77
MASAKO
MY DEAR 1
MY DEAR 9
MY DEAR 50
PRINCE 2
ROMANCE 15
ROMANCE 163
ROMANCE 207
ROMANCE 235
ROMANCE 256
SERIES ROMANTIC 17
TORI
YOGOHAMA
YURI
ยอดรักยอดดวงใจ
รักเธอสุดหัวใจ
หนุ่มห้าวท้าจุ๊บ

DEAR HEART 1
LOVELY
MAGIC LOVE 5
MAGIC LOVE 7
MY LOVE 5
SWEET 20
TEENAGE 9
TEENAGE 46
คำตอบสุดท้ายคือรักเธอ
แพ้รักหนุ่มขี้อ้อน
รักมิใช่ตราบาป
หนุ่มเต๊ะออเซาะรัก

DARLING 1
HOT LOVE 7
LADY 46
LADY 47
ROMANCE 23
ROMANCE 35
ROMANCE 294
ROMANCE 335
SWEET ROMANCE 9
แผนร้ายพ่ายรักเธอ
พิชิตหัวใจนายยอดแสบ
รอวันฉันรักคุณ
สามีสุดหล่อต้องง้อหน่อย 1
สามีสุดหล่อต้องง้อหน่อย 2

MY DEAR 57
PRINCE 4
ROMANCE 36
เจ้าสาวของชามาล
พายุเสน่หา
รัตติกาลหวานรัก

PRINCESS 20
PRINCESS 22
PRINCESS 23
PRINCESS 24
PRINCESS 25
PRINCESS 68
PRINCESS 71
PRINCESS 74
PRINCESS 75
PRINCESS 76
เหยื่อ 1

BOY FRIEND 6
DEAR HEART 2
DEAR HEART 3
HELLO 23
HELLO 33
HELLO 40
MAGIC LOVE 9
MAGIC LOVE 15
SEVENTEEN 1
TABOO 2
TABOO 32
แต๊ะอั๋งหัวใจ

KISS ME
LADY 51
LADY 59
MY DEAR 6
PRINCE 7
PRINCE 9
ROMANCE 75
ROMANCE 84
ROMANCE 104
ROMANCE 202
ROMANCE 345
SERIES ROMANTIC 8
ทนายคู่กัด
รักเพี้ยนๆ ของคุณหนู
รักแรกเจ็บฝังใจ
รักสุดใจเจ้านายสุดเซ็กซี่

DARLING 20
DARLING 48
LADY 26
LADY 29
LADY 36
LADY 43
MIWA
NEW ROMANTIC 4
OBI
ODORI
PRINCE 15
ROMANCE 1
ROMANCE 126
ROMANCE 147
มนต์มายา
หัวใจร่ำหารัก
FIRST LOVE 43
FIRST LOVE 44
GOSSIP
HELLO 2
HELLO 25
LOVE DIARY 12
MARMALADE 21
MARMALADE 22
STRAWBERRY 7
SUGAR 11
SUGAR 14
TEENAGE 1
ดีไซเนอร์ฮ็อตยอดรัก
รักนี้สีชมพู
รักเร้นในแววตา
หนุ่มยักษ์รักสุดฤทธิ์
ฮาเร็มหนุ่มสุดหล่อ
นายขี้อ้อนแอบซ่อนเขี้ยว

999 ต่อติดตาย
SADAKO
SHOCK!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก 3
กุกกักนักบาสหญิง
คุณแม่สยองขวัญ
ฆาตกรใจเด็ด
ฆาตกรผิดตัว
ฆาตกรลอยนวล
บทเรียนสีเลือด
พิสูจน์รักด้วยเลือด
โรงเรียนพันธุ์สยอง
เหยื่อ 7
FANTASIA 2
FANTASIA 3
PRINCESS 28
PRINCESS 30
PRINCESS 32
PRINCESS 33
PRINCESS 35
PRINCESS 40
PRINCESS 43
PRINCESS 70
PRINCESS 80
PRINCESS 81

DARLING 37
KARAKE
LADY 48
LADY 49
LADY 55
LADY 63
MY DEAR 13
ONSEN
ROMANCE 3
ROMANCE 4
ROMANCE 93
ROMANCE 101
ROMANCE 107
ROMANCE 109
ROMANCE 112
ROMANCE 124
ROMANCE 156
ROMANCE 186
ROMANCE 227
ROMANCE 267
ROMANCE 277
ROMANCE 288
ROMANCE 350
SAKURA 35
TABOO 50
พระเอกที่รัก
มายสวีทบอดี้การ์ด
โรมานซ์ซ่อนเงื่อน
สองเรารักนิรันดร์
อุ่นไอรักหนุ่มออฟฟิศ

FUJI
HIROMI
HONSHU
IRI
MARU
NOZOMI
OKINAWA

CHEESE 6
CHEESE 15
CHEESE 21
FRESHY 19
HELLO 11
HISCHOOL 2
HISCHOOL 4
HOT TEENAGE 3
LOVE DIARY 9
LOVE DIARY 11
LOVE LOVE 2
LOVE STORY 18
LOVE STORY 19
MAGIC LOVE 17
MARMALADE 6
MARMALADE 9
PUPPY LOVE 11
PUPPY LOVE 14
PUPPY LOVE 16
SEVENTEEN 11
STRAWBERRY 3
SWEET TEENAGE 10
คู่ใสวัยปิ๊ง
ปิ๊งรักหนุ่มแว่น
พ่อตัวป่วนสุดที่รัก

DARLING 22
LADY 2
LADY 3
LADY 54
LADY 60
MY ROMANCE
PRINCE 3
ROMANCE 14
ROMANCE 22
ROMANCE 32
ROMANCE 63
ROMANCE 80
ROMANCE 88
ROMANCE 143
ROMANCE 198
ROMANCE 200
ROMANCE 203
ROMANCE 225
SPECIAL ROMANCE 2
SWEET ROMANCE 2
เกมรักบนแคทวอล์ค
คู่หมั้นบลูไดมอนด์
เจ้าสาวหนาวฝัน
ตำนานรักบาซิลิส
เทพบุตรสุดที่รัก
รักจนได้นายรูปหล่อ
รักซึมลึก
รักในสายลม
รักย้อนมาอ้อนรัก
รักเหนือบัลลังก์
สองสาวสองรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2022, 10:53:15 pm โดย anyaha »



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2022, 10:02:23 pm
11 มังงะแนวโรแมนติกที่ควรอ่านเพื่อเติมเต็ม

มังงะโรแมนติกที่คุณควรอ่าน
การ์ตูนแนวโรแมนติกหรือที่รู้จักกันในญี่ปุ่นว่ามังงะโชโจได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 1950 แฟน ๆ ของการ์ตูนโชโจจะบอกคุณว่าหัวใจของคุณจะเต้นแรงขณะอ่านเพราะการโต้ตอบระหว่างตัวละครหลักนั้นน่ารักเกินไป ทุกวันนี้ ผู้คนอาจชอบดูรายการโรแมนติกมากกว่าอ่าน แต่เชื่อเราเมื่อเราบอกว่าคุณจะไม่เสียใจที่ได้ดูการ์ตูนเหล่านี้ ภาพประกอบที่สวยงาม พล็อตเรื่องเยี่ยม และตัวละครที่น่าทึ่งจะทำให้คุณติดงอมแงมทันที

1. เกมสุดท้าย (2011 – 2016)



นาโอโตะ ยานางิ และ มิโคโตะ คุโจ เป็นคนละขั้วกัน นาโอโตะรวย ฉลาด และหล่อเหลา ในขณะที่มิโคโตะยากจน ปฏิบัติได้จริง และไม่แยแส ตั้งแต่เด็ก นาโอโตะไม่เคยแพ้ใคร แต่นั่นเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับมิโคโตะ สิ่งนี้เริ่มต้นการแข่งขันฝ่ายเดียวระหว่างพวกเขาและนาโอโตะท้าทายมิโคโตะในทุกพื้นที่เพื่อพยายามเอาชนะเธอ แม้จะแพ้ให้กับมิโคโตะอยู่เสมอ นาโอโตะก็ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ เขาติดตามเธอตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงวิทยาลัย ซึ่งเขาออกความท้าทายครั้งสุดท้าย – “เกมสุดท้าย” เพื่อตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะในทันทีและสำหรับทั้งหมด ตอนแรก "เกมสุดท้าย" ของนาโอโตะคือการทำให้มิโคโตะตกหลุมรักเขาและทำให้เธอใจสลาย อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์พลิกผัน เขาตกหลุมรักเธอจริงๆ และเปลี่ยนแผน “เกมสุดท้าย” ของเขาเพื่อให้เธอแต่งงานกับเขา

ศิลปิน: ชิโนบุ อามาโนะ ประเภท: โรแมนติก ชีวิตในโรงเรียน เล่ม: 11 สถานะของการ์ตูน: จบแล้ว

2. โฮริมิยะ (2007 - ปัจจุบัน)



Kyoko Hori เป็นเด็กผู้หญิงที่สดใสและเป็นที่นิยมในโรงเรียน แต่ตัวจริงของเธอคือคนในบ้านที่ไม่แต่งตัวและยุ่งอยู่กับการดูแล Souta น้องชายของเธอ อิซึมิ มิยามูระเป็นเด็กเนิร์ดที่สวมแว่นที่มืดมนที่โรงเรียน แต่ตัวจริงของเขาคือพังก์หนุ่มที่มีการเจาะถึง 9 จุดและรอยสักนับไม่ถ้วน

พวกเขาบังเอิญค้นพบตัวตนที่แท้จริงของกันและกันนอกโรงเรียนเมื่ออิซึมิช่วยโซตะกลับบ้าน ทั้งคู่ตกลงที่จะเก็บความลับของกันและกันและใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น



ศิลปิน: Daisuke Hagiwara / HERO ประเภท: ตลกโรแมนติก เล่ม: 37 สถานะของมังงะ: ต่อเนื่อง

3. Strobe Edge (2007 – 2010)



Ninako Kinoshita ไม่เคยรู้จักความรักจนกระทั่งเธอได้พบกับ Ren Ichinose ที่โด่งดัง แม้ว่า Ninako จะตกหลุมรัก Ren แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะอยู่ด้วยกันในขณะที่เขากำลังออกเดทกับ Mayuka Korenaga อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่อเนื่องระหว่าง Ninako, Ren, Mayuka และ Takumi Ando – เพื่อนที่ดีที่สุดของ Ren – นำไปสู่การเลิกราของ Ren และ Mayuka และรักสามเส้าระหว่าง Ninako และเด็กชายทั้งสองก็ผลิบาน Strobe Edgeเป็นเรื่องราวโรแมนติกของวัยรุ่นที่แสดงให้เราเห็นถึงการต่อสู้ของผู้ที่อยู่ในรักสามเส้าและสอนให้เราซื่อสัตย์และกล้าหาญกับความรู้สึกของเรา

ศิลปิน: Io Sakisaka ประเภท: Coming-of-age, Romance เล่ม: 10 สถานะของการ์ตูน: เสร็จสมบูรณ์

4. ฮิโยโคอิ (พ.ศ. 2552 – 2557)



Hiyokoiติดตามเรื่องราวของ Hiyori Nishiyama เด็กหญิงอายุ 15 ปีที่หยุดสูงขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุ หลังจากออกจากโรงพยาบาล ฮิโยริเริ่มต้นชีวิตในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายและได้ผูกมิตรกับยูชิน ฮิโรเสะ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เหนือเธอด้วยความสูง 190 ซม. หลังจากนั้นพวกเขาก็สนิทสนมกันมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ยูชินช่วยฮิโยริออกไป



ศิลปิน: Moe Yukimaru ประเภท: ตลกโรแมนติก, ชีวิตในโรงเรียน เล่ม: 14 สถานะของการ์ตูน: เสร็จสมบูรณ์

5. Kyou Koi wo Hajimemasu (2007 – 2014)



สึบากิ ฮิบิโนะ เก่งเรื่องทรงผม แต่ตอนแรกอายเกินกว่าจะจัดแต่งทรงผมของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้เธอถูกล้อเลียนในโรงเรียนเพราะดูเชย เมื่อ Kyouta Tsubaki ที่โด่งดังล้อเลียนเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอ เธอตัดผมของเขาอย่างท้าทาย ด้วยความทึ่ง เคียวตะจึงเริ่มไล่ตามเธอ แม้ว่าสึบากิจะพยายามปฏิเสธความก้าวหน้าทั้งหมดของเขา แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตกหลุมรักกันและกัน อย่างไรก็ตาม มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง: เคียวตะมีปัญหาเรื่องการผูกมัดเนื่องจากการทรยศในอดีต เรื่องราวแสดงให้เห็นการเดินทางของสึบากิและเคียวตะ – ตกหลุมรัก เอาชนะบาดแผลในอดีต เผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น คู่รัก การมีความสัมพันธ์ทางไกลในวิทยาลัย และในที่สุดก็มีความสุขเป็นของตัวเองตลอดไป

ศิลปิน: Kanan Minami ประเภท: Slice of life, Romance, Coming-of-age เล่ม: 15 สถานะของการ์ตูน: เสร็จสมบูรณ์

6. Wolf Girl และ Black Prince (2011 – 2016)



เอริกะ ชิโนฮาระอยากมีเพื่อนตอนม.ปลาย เธอจึงโกหกเรื่องมีแฟนเพื่อให้เข้ากับสาวๆ ในกลุ่มของเธอ เพื่อให้เรื่องราวของเธอน่าเชื่อถือ Erika จึงถ่ายรูปคนแปลกหน้าตามท้องถนนและบอกเพื่อนของเธอว่าเขาเป็นแฟนของเธอ ทำให้เขาประหลาดใจและสยองขวัญเป็นอย่างมาก เขากลายเป็นผู้ชายที่โด่งดังที่สุดในโรงเรียนของพวกเขา Kyoya Sata เพื่อป้องกันไม่ให้คำโกหกของเธอถูกเปิดเผย Erika ขอให้ Kyoya แกล้งเป็นแฟนของเธอ ขณะที่พวกเขาแสดงเป็นคู่รัก Erika ค้นพบว่า Kyoya ไม่ใช่ "เจ้าชาย" ที่สมบูรณ์แบบที่ทุกคนคิดว่าเขาเป็น ที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่ถากถาง หยิ่งยโส และเจ้าเล่ห์ แม้จะเริ่มต้นจากการเป็นคู่รักเสแสร้งและมีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง Erika และ Kyoya ก็จบลงด้วยการตกหลุมรักกันและกลายเป็นคู่รักที่แท้จริง ร่วมกันพวกเขามีอิทธิพลต่อกันและกันเพื่อพัฒนาและปรับปรุงเป็นรายบุคคล มังงะจะแสดงให้เห็นการเดินทางของพวกเขาในฐานะคู่รักตลอดช่วงมัธยมปลายและช่วงวัยผู้ใหญ่ - เอาชนะความท้าทายต่าง ๆ เช่นความรักของคู่แข่ง ความเข้าใจผิดและความหึงหวง และปัญหาที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางไกลของพวกเขา



ศิลปิน: Ayuko Hatta ประเภท: ตลกโรแมนติก, ชีวิตในโรงเรียน เล่ม: 16 สถานะของการ์ตูน: เสร็จสมบูรณ์

7. นาไมกิซาคาริ (2556 – ปัจจุบัน)



ยูกิ มาชิดะเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเป็นผู้จัดการทีมบาสเกตบอลของโรงเรียน เธอมีความรักที่ไม่สมหวังกับคิโดะ กัปตันบาสเกตบอล โช นารุเสะ นักศึกษาปีหนึ่งค้นพบสิ่งนี้ หลังจากที่โชเข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอล เขามักจะปลุกระดมให้ยูกิเรียกร้องความสนใจจากเธอ เมื่อรู้ถึงความรักที่ยูกิมีต่อคิโดะ โชจึงสาบานว่าจะเอาชนะใจเธอ และด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มไล่ตามเธอขณะที่พวกเขาเรียนมัธยมปลาย

ศิลปิน: Miyuki Mitsubachi ประเภท: Romance, School life, Sports ปริมาณ: 19 สถานะของมังงะ: ต่อเนื่อง

8. เดงเกกิ เดซี่ (2007 – 2013)



เมื่อพี่ชายของ Teru เสียชีวิต Teru วัย 16 ปีเหลือเพียงโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อเธอกับคนที่เรียกว่า “เดซี่” ซึ่งพี่ชายของเธอบอกว่าจะดูแลเธอแทน จากนั้น “เดซี่” ก็กลายเป็นเสาหลักของการสนับสนุนและจุดแข็งของเทรุผ่านการสนทนาของพวกเขา หลังจากที่เทรุพังหน้าต่างโรงเรียนโดยบังเอิญ เธอถูกบังคับให้ทำงานให้กับทาสึกุ คุโรซากิ ภารโรงโรงเรียนวัย 24 ปีที่โหดเหี้ยมและขี้โมโห ขณะที่เทรุทำงานให้กับคุโรซากิ เธอตระหนักว่าเขาไม่ได้เป็นคนเลวอย่างที่เธอคิดในตอนแรก และเธอก็เริ่มตกหลุมรักเขา เทรุเริ่มสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของ “เดซี่” และเชื่อว่า “เดซี่” และคุโรซากิเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าคุโรซากิจะรักเทรุ แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความรู้สึกที่มีต่อเธอในขณะที่เขารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อการตายของพี่ชายของเธอ



ศิลปิน: Kyousuke Motomi ประเภท: Romance, Drama ปริมาณ: 16 สถานะของมังงะ: Completed

9. Lovely Complex (2544 – 2550)



Risa Koizumi สูง 172 ซม. สูงกว่าเด็กผู้หญิงทั่วไป ในขณะที่ Atsushi Otani ส่วนสูง 156 ซม. เตี้ยกว่าเด็กผู้ชายทั่วไปในญี่ปุ่น ทั้งคู่มักจะจับคู่กันในโรงเรียนเป็นดูโอที่ตลกเพราะความสูงต่างกัน Risa แอบชอบ Ryouji Suzuki ในขณะที่ Atsushi ชอบ Chiharu Tanaka Risa และ Atsushi ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อมีคนแอบชอบ แต่ Ryouji และ Chiharu กลับเดทกันแทน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนที่แอบชอบได้ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สูญเปล่าเพราะ Risa และ Atsushi สนิทสนมกันมากกว่าแต่ก่อนมาก ริสะตกหลุมรักอัตสึชิและสารภาพรักกับเขาในที่สุด แต่ด้วยความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาและกังวลเรื่องความสูงที่ต่างกัน อัตสึชิจึงปฏิเสธเธอ หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ มากมายที่ทำให้ริสะและอัตสึชิใกล้ชิดกันมากขึ้น อัตสึชิก็เลิกยุ่งเรื่องส่วนสูงเพื่อเริ่มคบกับริสะ



ศิลปิน: Aya Nakahara ประเภท: ตลกโรแมนติก, โรงเรียน, ละคร เล่ม: 17 สถานะมังงะ: จบแล้ว

10. ฮัตสึโคอิ วาซูไร (2013)



โฮตารุ นักเรียนม.ปลาย ไม่เคยมีความรักแต่อยากค้นหาว่าความรักคืออะไร หลังจากที่ได้เห็นเพื่อนๆ รอบตัวเธอเริ่มออกเดท เธอปรารถนาที่จะสัมผัสมันด้วยตัวเธอเอง และชินริ ชายหนุ่มที่โด่งดังและหล่อที่สุดในโรงเรียนบอกว่าเขาจะสอนเธอ พวกเขาเรียนรู้ว่าความรักคืออะไรผ่านการทดลองการออกเดทด้วยกัน



ศิลปิน: Marina Umezawa ประเภท: โรแมนติก, ชีวิตในโรงเรียน เล่ม: 1 สถานะของการ์ตูน: จบแล้ว

11. สโนว์ไวท์ผมแดง (2549 – ปัจจุบัน)



Shirayuki นักสมุนไพรของ Tanbarun มีผมสีแดงที่สวยงามและโดดเด่น แต่น่าเสียดายที่สิ่งนี้ทำให้เธอดึงดูดความสนใจที่ไม่ต้องการจากราจี เชนาซาร์ เจ้าชายผู้เย่อหยิ่งของทันบารุน ราจีขอให้เธอเป็นสนมของเขา ไม่ต้องการเป็นนางสนม ชิรายูกิตัดผมยาวสีแดงของเธอและหนีข้ามคืน ขณะหลบหนี เธอได้พบกับเซน วิสตาเลีย เจ้าชายองค์ที่สองของประเทศเพื่อนบ้านของคลารีนส์ เมื่อราจิส่งแอปเปิลพิษให้ชิรายูกิเพื่อจับตัวเธอกลับ เซนก็ถูกวางยาพิษ และชิรายูกิต้องใช้ความรู้เรื่องสมุนไพรเพื่อช่วยเขา ชิรายูกิร่วมกับสหายของเซน มิสึฮิเดะ และกิกิ เดินทางไปที่ คลารีนส์และตัดสินใจเป็นแพทย์ของราชสำนัก เมื่อ Zen และ Shirayuki สนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคู่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุความฝันและอยู่ด้วยกัน



ศิลปิน: Sorata Akizuki ประเภท: Romance, Fantasy เล่ม: 21 สถานะของมังงะ: ต่อเนื่อง

การ์ตูนแนวโรแมนติกที่น่าอ่านที่สุด
ด้วยการ์ตูนแนวโรแมนติกที่หลากหลายที่ตีพิมพ์ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะบอกว่ามีอย่างน้อยหนึ่งเล่มที่ตรงกับรสนิยมของคุณ ตั้งแต่ฉลาดและสุภาพบุรุษไปจนถึงขี้อายและน่ารัก ผู้ชายในอุดมคติของคุณสามารถพบได้ในมังงะโชโจ ไปดูการ์ตูนแนวโรแมนติกเหล่านี้และเตรียมตัวให้พร้อม

ขายการ์ตูน pdf ออนไลน์ รวมการ์ตูนโรแมนติก 63 เล่ม
สุดคุ้มขาย 500 บาท จากปกติ 630 บาท อ่านกันยาวๆจุใจ



ติดต่อแม่ค้า
ไลน์ fattycatty

สแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มไลน์ได้ที่นี่


อีเมล์ [email protected]

                                                                       



Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2022, 09:10:47 pm
เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา 1

เรื่องราวทุกๆ อย่างในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ค่อยๆ ถูกเปิดเผยขึ้นมา ในเดือนเมษายนของปี 1908 ที่บ้านฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองลาพอร์เต้ รัฐอินเดียนน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

เช้าวันหนึ่งที่นายแม็กซอนโจ คนงานของฟาร์มได้ตื่นขึ้นมา เขาได้กลิ่นไหม้ตัวบ้าน จึงได้รีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะกลิ่นเหม็นไหม้นี้ไม่น่าจะใช่กลิ่นทำอาหารเช้าของนายจ้างหญิงนามว่า เบลล์ กันเนส ที่กำลังเตรียมอาหารสำหรับลูกๆ เป็นแน่ หากแต่ว่านี่เป็นกลิ่นเผาไหม้ของยางรถยนต์ที่แสบหูแสบตาจนเกินจะทนได้


สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือบ้านกำลังตกอยู่ในกองเพลิง แม็กซอนพยายามหนีออกจากห้อง แต่ประตูกลับถูกล็อกจากด้านนอก เขาพุ่งกระแทกตัวเข้าใส่บานประตูอย่างรุนแรงพร้อมกับคิดว่าถ้าไม่สามารถออกทางประตูได้ เขาอาจจำเป็นจะต้องกระโดดออกทางหน้าต่าง แต่ในที่สุด แม็กซอนก็หนีออกมาจากห้องจนได้ เขาได้วิ่งลงบันไดผ่านห้องโถง พลางร้องเรียกคุณนายเบลล์ให้ได้รับรู้ว่าขณะนี้บ้านกำลังถูกเพลิงไหม้ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เลย แม็กซอนยังพยายามวิ่งตามหาคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านจนทั่ว แต่เขากลับไม่พบกับสมาชิกคนอื่นในบ้านเลย ขณะเดียวกันเปลวเพลิงก็ได้โหมกระหน่ำลุกไหม้จนลามไปทั่วบ้านอย่างรวดเร็ว เขาจึงจำเป็นที่ต้องวิ่งหลบออกมานอกบ้านเพื่อความปลอดภัย

ที่นอกบ้าน แม็กซอนก็ยังไม่พบกับคุณนายเบลล์และลูกๆ ของเธออยู่ดี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปในเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านอีกครั้งก็พบว่า บ้านทั้งหลังถูกไฟเผาวอดวายจนเหลือแต่เสาไปแล้ว จนเมื่อนายอำเภอ พนักงานดับเพลิง และอาสาสมัครได้มาถึงที่เกิดเหตุ สภาพที่เหลืออยู่หลังไฟมอดลงนั้น ก็ได้มีการพบศพในที่เกิดเหตุ ประกอบไปด้วยร่างของเด็กๆ 3 คน ทั้งหมดเป็นลูกของคุณนายเบลล์ และยังมีศพของผู้ใหญ่อีกหนึ่งศพ เป็นศพของผู้หญิงที่ถูกตัดหัว ซึ่งทั้งสี่ศพนี้ถูกพบรวมกันอยู่ที่ชั้นใต้ดินของบ้าน ตำรวจจึงคาดว่าศพที่ไร้หัวนี้จึงน่าจะเป็นศพของคุณนายเบลล์

แต่ความร้ายกาจจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่นี้ กลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยไปในทันที หากเทียบกับชีวิตของคุณนายเจ้าของฟาร์ม เบลล์ กันเนส และเหตุการณ์นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการตรวจสอบย้อนหลังชีวิตของเธอ ที่ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงว่า เธอเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีการตายปริศนาของใครๆ อีกหลายคนในประเทศสหรัฐอเมริกา จนสามารถเรียกได้ว่าทุกที่ที่หญิงสาวชาวนอร์เวย์คนนี้ได้เคยผ่านไป ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเธอมักจะมีจุดจบของชีวิตในแบบที่ไม่ตายดีทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสามี ชายที่มาติดพันหรือแม้กระทั่งลูกๆ ของเธอเอง และประวัติชีวิตของเธอทั้งหมดจึงทำให้ชื่อของเบลล์ กันเนสต้องถูกจารึกเอาไว้ว่าเป็นผู้หญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

สาเหตุของไฟไหม้นั้นสันนิษฐานว่าเกิดจากฝีมือของนางเบลล์ที่ได้วางเพลิงเพื่อชิงฆ่าตัวตายไปก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนในคดีอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวพันกับเธอ แต่การตายของเธอก็ยังมีปริศนาให้ขบคิดอีกมากมายตามมา จนทำให้กลายมาเป็นตำนานอันน่าสะพรึงกลัวที่หลายคนยากจะลืมเลือนจนถึงปัจจุบัน

เบลล์ กันเนสเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงชาวนอร์เวย์ ซึ่งได้ฆ่าผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเธอในอิลลินอยส์และอินเดียนน่าระหว่างปี 1900-1908 โดยจำนวนของผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อนั้นคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 40 ราย เธอเต็มใจที่จะฆ่าทุกคนเพียงเพื่อหวังประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือเงินประกัน


เรื่องราวประวัติชีวิตของเบลล์ กันเนสถูกนำมาเผยแพร่มากมาย จนไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเรื่องไหนบ้างที่เป็นเรื่องจริง แต่อย่างน้อยที่สุดเรื่องราวที่พอจะรู้แน่ชัดก็เช่น ชื่อเดิมของเธอคือ Brynhild Poulsdatter St?rset  เกิดวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 1859 ที่ประเทศนอร์เวย์ ในเมืองแห่งหนึ่งใกล้ทะเลสาบเซลบู (Lake of Selbu) พ่อของเธอมีอาชีพเป็นช่างก่อหิน และเธอเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 8 คน ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ในฟาร์มที่เซลบู 60 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของทรอนด์เฮม (Trondheim)

บรินไฮลด์ หรือ เบลล์ เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างใหญ่โตแข็งแรง สูงประมาณ 183 เซ็นติเมตร หนักประมาณ 90 กิโลกรัม แต่ด้วยผมสีบลอนด์อ่อนนุ่มพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใส ดวงตาสีฟ้าที่ส่องเป็นประกาย ทำให้เธอมีเสน่ห์ทางเพศมากพอสมควร สารคดีทางโทรทัศน์ของนอร์เวย์ที่ออกอากาศเมื่อปี 2006 ได้เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของเบลล์ กันเนสไว้ว่า ในปี 1877 เบลล์ได้ไปร่วมงานเทศกาลประจำปี ในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเธอไม่ยอมเปิดเผยว่าใครเป็นพ่อเด็ก ภายในงานเทศกาล เธอถูกทำร้ายร่างกายโดยผู้ชายคนหนึ่ง อีกทั้งยังถูกเตะเข้าไปที่ช่องท้องอย่างรุนแรงจนเธอถึงกับต้องแท้งลูก แต่เพราะชายคนดังกล่าวมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล เขาจึงไม่ถูกดำเนินคดีในชั้นศาลแต่อย่างใด ความเคียดแค้นทั้งหมดจึงปะทุขึ้นอย่างรุนแรงภายในจิตใจของเธอ และนับจากนั้นเป็นต้นมาจากหญิงสาวผู้สดใสกลับมีบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด แล้วในเวลาต่อมาชายคนที่ทำร้ายร่างกายเธอก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร

ด้วยสภาพครอบครัวที่อัตคัตยากจน บรินไฮลด์จึงต้องไปทำงานในฟาร์มใหญ่ ไม่ไกลจากละแวกบ้านอยู่นานถึงสามปี จนเธอเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางด้วยเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำหรับการออกเดินทางไปแสวงโชคยังประเทศอเมริกาในปี 1881 จนเมื่อเธออพยพมาอยู่อเมริกาแล้วจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เบลล์ กันเนส ในช่วงแรกเธอทำงานเป็นคนรับใช้ตามบ้าน แต่ด้วยความทะเยอทะยานของเธอนั้น จะไม่ยอมหยุดเป็นเพียงคนรับใช้แน่ๆ ครั้งหนึ่งคนในครอบครัวของเธอได้ให้คำนิยามง่ายๆ สำหรับผู้หญิงคนนี้ไว้ว่า เธอเป็นผู้หญิงบ้าเงิน

ในปี 1884 เบลล์ได้แต่งงานกับแมดส์ อัลเบิร์ต โซเรนเซน  (Mads Albert Sorenson) ในชิคาโก้ แล้วอีกสองปีต่อมา ทั้งคู่ก็ช่วยกันเปิดร้านขนมขึ้นมาในรัฐเท็กซัส แต่ธุรกิจกลับไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งปีถัดมา ร้านขนมของเธอก็เกิดเหตุไฟไหม้ปริศนา ซึ่งเบลล์ให้การว่าตะเกียงน้ำมันก๊าดล้ม และมันก็เริ่มติดไฟจนลุกลามไปทั่ว หากแต่ว่าตะเกียงน้ำมันก๊าดที่เธอได้อ้างถึงนั้นหาไม่พบในที่เกิดเหตุเลย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทประกันก็ได้จ่ายเงินก้อนโตให้กับเบลล์ และเธอก็ได้นำเงินก้อนนั้นไปซื้อบ้านหลังใหม่ที่ชานเมืองย่านออสติน แต่แล้วในปี 1888 บ้านหลังใหม่ของเบลล์ที่ออสตินก็เกิดเหตุการไฟไหม้ขึ้นอีกครั้ง ทำให้เบลล์ได้รับเงินประกันก้อนใหญ่อีกก้อนเพื่อนำไปใช้สำหรับการหาซื้อบ้านหลังใหม่

เบลล์มีลูกกับโซเรนเซน 4 คนคือ แคโรไลน์ แอคเซล เมียร์เทิล และลูซี่ แต่หนูน้อยแคโไลน์ และแอคเซลนั้นต้องตายไปตั้งแต่อยู่ในวัยทารกด้วยอาการป่วยเฉียบพลัน ทั้งคลื่นไส้ มีไข้ ท้องเสีย ปวดท้อง และเป็นตะคริว อาการทั้งหลายนี้เหมือนกับอาการของคนที่ถูกวางยาพิษ และไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดใดๆ อาจเป็นเพราะว่าแม้แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังยืนยันว่านี่เป็นการป่วยฉับพลันและไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตของลูกๆ อย่างไรก็ตามการตายของลูกๆ ทำให้เบลล์ได้รับเงินจากบริษัทประกันอีกเช่นเคย

แล้วในวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 1900 โซเรนเซนผู้เป็นสามีของเบลล์ก็ได้เสียชีวิตลง โดยแพทย์คนแรกที่ได้ทำการชันสูตรลงความเห็นว่า เขาตายเพราะพิษยาเบื่อ แต่ทางแพทย์ประจำครอบครัวยืนยันว่าเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว โดยเบลล์ให้การว่าเธอให้เขากินยาไปเล็กน้อย เพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้นจากอาการป่วยเท่านั้นเอง การตายของผู้เป็นสามีทำให้เบลล์ได้รับเงินประกันชีวิตไปถึง 8,500 ดอลล่าร์ แต่หลังงานศพของสามี เหล่าญาติๆ ฝั่งของโซเรนเซนสงสัยว่า เบลล์วางยาพิษเขาเพื่อหวังเอาเงินประกัน จึงเรียกร้องให้มีการพิจารณาคดี แต่หลักฐานต่างๆ นั้นกลับไม่มีความชัดเจน  เบลล์จึงรอดพ้นจากการถูกสั่งฟ้อง ทำให้เบลล์ยังลอยนวลอยู่ได้อย่างสบายอกสบายใจ

เบลล์นำเงินประกันก้อนนี้ไปซื้อบ้านใหม่เป็นฟาร์มแห่งหนึ่งนอกเมืองลาพอร์ทเต้ รัฐอินเดียนน่า โดยเธอและลูกๆ ได้พากันย้ายไปอยู่ที่นั่นในปี 1901 แต่ถึงกระนั้นความละโมบโลภมากของเบลล์ ที่เปรียบเสมือนบ่อน้ำไร้ก้นที่ไม่มีวันจะเติมเต็ม เธอจึงยังคงหาเหยื่อเพื่อผลประโยชน์ต่อไปให้ได้มากที่สุด

เมษายน 1902 เบลล์ได้แต่งงานกับสามีคนใหม่ที่มีชื่อว่าปีเตอร์ กันเนส ที่เป็นพ่อม่ายลูกติดชาวนอร์เวย์ และมีอาชีพเป็นพ่อค้าเนื้อ เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากพิธีแต่งงาน ลูกสาววัยทารกของปีเตอร์ก็ตายลงอย่างน่าเคลือบแคลงใจ เพราะในวันเกิดเหตุ เบลล์เป็นคนเดียวที่อยู่กับทารกน้อยผู้นี้ แล้วในเดือนธันวาคมของปีเดียวกันนั้นเอง ปีเตอร์ก็ต้องประสบอุบัติเหตุอย่างน่าอนาถ เมื่อเบลล์อ้างว่าอุปกรณ์ใบมีดของเครี่องบดเนื้อสำหรับการทำไส้กรอกตกลงมาจากชั้นวางที่สูงหล่นลงมาใส่ศรีษะของปีเตอร์ ทำให้กะโหลกศรีษะแตกและเสียชีวิตทันที เป็นอีกครั้งที่ทางเบลล์ได้รับเงินประกันชีวิตของสามี โดยครั้งนี้เธอได้รับเงินไปจำนวนถึง 4,000 ดอลล่าร์

แต่คนในท้องถิ่นที่รู้จักมักคุ้นกับปีเตอร์ดีนั้น ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่า เขาจะพลาดพลั้งจนต้องมาตายอย่างน่าอนาถขนาดนี้ อีกทั้งปีเตอร์ก็ยังเป็นที่รู้จักดีในฐานะพ่อค้าเนื้อที่มีประสบการณ์สูงและยังเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินสะสมเอาไว้อยู่มากมาย ด้วยความน่าสงสัยในหลายๆ ประเด็น ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้ทำการตรวจสอบและประกาศผลอย่างเป็นทางการว่า ปีเตอร์ถูกฆาตกรรม ทำให้เบลล์กันเนสต้องถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี

ลูกบุญธรรมคนหนึ่งของเบลล์ชื่อ เจนนี่ ออร์สัน อายุ 14 ปี เธอได้เคยเล่าให้เพื่อนร่วมชั้นฟังว่า แม่ฆ่าพ่อ แม่ตีพ่อด้วยใบมีดบดเนื้อหลายสิบครั้ง จนพ่อต้องตาย และยังได้กำชับกับเพื่อนของเธออีกว่า อย่านำเรื่องนี้ไปบอกกับใคร และด้วยเหตุนี้ทำให้ต่อมา เจนนี่ต้องถูกนำตัวมาขึ้นให้การต่อหน้าคณะลูกขุน แต่คำให้การของเธอดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก อีกทั้งระหว่างที่เจนนี่กำลังขึ้นให้การ ก็ยังมีสายตาของเบลล์ที่กำลังจับจ้องเธอ ราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อ ในระหว่างที่กำลังมีเรื่องมีราวเป็นคดีความกันอยู่นั้น เบลล์กำลังตั้งครรภ์ฟิลิปอยู่พอดี เธอจึงได้ใช้โอกาสนี้ขอความเห็นใจจากศาลให้สงสารเธอในฐานะแม่ม่ายที่ต้องเลี้ยงดูลูกๆ อีกหลายคนด้วยความยากลำบาก ซึ่งก็ได้ผล เหตุผลนี้ทำให้คณะลูกขุนเริ่มเอนเอียงมาทางเธอ จนในที่สุดแล้วเธอก็สามารถรอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมดได้

แต่แล้วในวันหนึ่ง โชคชะตาก็ได้นำพาหญิงโฉดกับชายชั่วให้ได้มาเป็นคู่รักซ่อนเร้น สมรู้ร่วมคิดช่วยกันก่อคดีฆาตกรรม โดยเบลล์ได้ว่าจ้างให้ รอยแลมเฟียร์ มาทำงานในฟาร์มในปี 1906 และในปีเดียวกันนั้นเอง เจนนี่ ออร์สัน ลูกบุญธรรมของเบลล์ก็หายสาบสูญไป

ถ้าหากมีใครมาทำไถ่ถึงเจนนี่ เบลก็มักจะบอกว่า เธอส่งเจนี่เข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำใน Los Angeles ทั้งทั้งที่แท้จริงแล้ว เด็กหญิงเจนนี่ได้ถูกแล้วฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และศพของเธอก็ถูกฝังเอาไว้ในฟาร์มนั้นเอง เบลมักจะคิดแผนการหาเงินก้อนโตอยู่เรื่อยๆ และแผ่นการใหม่ที่เธอคิดออกก็คือ การลงโฆษณาแทรกในหนังสือพิมพ์ Chicago หรือหนังสือพิมพ์ของเมืองใหญ่ๆโดยมีเนื้อหาว่า แม่หม้ายสาวงามผู้เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ที่ดีที่สุดในเขตลาพอร์เต้ รัฐอินเดียน่า ต้องการคบหากับสุภาพบุรุษที่มีฐานะดี และมีมุมมองที่กว้างไกล ขอเพียงแค่ให้เราได้มาเยี่ยมเยือนกันดูสักครั้ง เพื่อพูดคุยกันเรื่องธุรกิจของสองเรา ในแบบเป็นการส่วนตัว และเมื่อมีคนตอบรับ เบลก็จะคัดเลือกจดหมาย โดยเลือกจากคนที่มีฐานะดี ที่ไม่มีญาติพี่น้อง และเธอมักจะชักชวนให้เหยื่อผู้นั้น เดินทางมาหาเธอที่ฟาร์ม พร้อมกับให้นำเงินจำนวนมากติดตัวมาด้วย เพื่อเป็นการมัดจำสำหรับการทำธุรกิจร่วมกับเธอ

มีชายวัยกลางคนที่หลงเชื่อกับคำโฆษณานี้มากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือจอห์น มู ที่เดินทางมาจากวิสคอนซิน รัฐมินนิโซตา เขาเป็นชายวัย 50 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง และยังนำเงินติดตัวมาด้วยมากกว่า 1000 ดอลลาร์ จนเมื่อเขามาพบกับเบล จอห์นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหยื่อรายถัดไปคือ จอร์ชแอนเดอร์สัน ผู้อพยพชาวนอร์เวย์ ที่เดินทางมาจากมิสซูรี เพื่อมาหาเบล ตามที่เธอได้ลงโฆษณาเอาไว้ ซึ่งในตอนแรกนั้น เขาไม่ได้นำเงินทั้งหมดติดตัวมาด้วย เพราะเขาอยากเห็นเบลตัวจริงก่อนที่จะตัดสินใจ แต่เมื่อเขาเห็นตัวจริงก็ได้พบว่า เบลเป็นแม่หม้ายวัยใกล้ 40 ที่ไม่ได้สวยงดงาม อย่างที่เธอตั้งเอาไว้ในโฆษณาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีรูปร่างใหญ่โต แถมยังมีผิวพรรณหยาบกร้านตามแบบฉบับของหญิงชาวไร่ หากแต่ว่าเสน่ห์ที่แท้จริงของเบลที่มัดใจชายมาแล้วมากมายก็คือ  เธอเป็นคนพูดเก่ง และมีความอ่อนหวาน อีกทั้งยังให้การดูแลต้อนรับจอร์จอย่างดี จึงทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจได้อย่างประหลาด นางจึงทำให้จอร์จเกิดความเชื่อใจ และตัดสินใจที่จะกลับไปยังมิสซูรี เพื่อนำเงินก้อนโตมาทำธุรกิจร่วมกับเธอ ไม่เพียงเท่านั้น จอร์จยังคิดที่จะแต่งงานจริงจังกับเบลอีกด้วย

แต่ในค่ำคืนนั้นเอง จอร์จที่ได้ค้างคืนที่บ้านของเบล ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก และพบเห็นเบลกำลังยืนอยู่ข้างเตียง โดยทีถ้าอาการของเธอนั้นดูแปลกไป ในแววตามีแต่ความน่ากลัว จนถึงขนาดที่ทำให้เขารู้สึกขนลุก แล้วสัญชาตญาณบางอย่างก็เตือนให้จอร์จ ตัดสินใจหนีออกมา จากบ้านของเบล เขาออกเดินทางกลับมาที่มิสซูรี ในคืนนั้นทันที โดยไม่คิดจะกลับมาที่นั่นอีกเลย

ในระยะหลังเพื่อนบ้านหลายคนให้การว่า พวกเขาเคยผ่านไปเห็นเบลล์ขุดดินในเล้าหมูกลางดึก และยังมีผู้พบเห็นว่า รอย แลมเฟียร์ คู่หมั้นของเบล ออกมาแต่เวรขุดหลุมกลางดึกทั่วบริเวณฟาร์ม

โอเล บี. บัดส์เบิร์ก (Ole B. Budsberg) เป็นเหยื่ออีกรายที่ได้เดินทางมาหาเบลล์จนถึงฟาร์มกันเนส พ่อหม้ายสูงวัยจากรัฐวิสคอนซินผู้นี้ ถูกพบเห็นว่ามีชีวิตอยู่ครั้งสุดท้ายที่ธนาคาร ในลาพอร์เต้ ระหว่างที่เขากำลังถอนเงินสดหลายพันดอลลาร์จากบัญชีของตัวเอง เมื่อวันที่ 6 เมษายนปี 1907 และหลังจากที่เขาหายสาบสูญไป ออสก้ากับแมทธิว บุตรชายทั้งสองของเขาก็ได้พยายามออกตามหาพ่อ จนได้ทราบว่าพ่อของพวกเขา ติดต่อกับเบลล์เป็นคนสุดท้าย พวกเขาได้ส่งจดหมายไปหาเบลลเพื่อถามถึงพ่อ แต่เบลล์ก็รีบตอบกลับมาทันทีว่า เธอยังไม่เคยได้พบพ่อของพวกเขาเลย

ปี 1907 แอนดรู เฮลเกเลียน (Andrew Helgelien) ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ที่เคยปรากฏตัวอยู่ที่ลาพอร์เต้ ก็มาหายตัวไปในฟาร์มกันเนสช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเขาเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในเซาท์ดาโกตา ที่ได้เขียนจดหมายถึงเบลล์และได้รับข้อความตอบกลับมาที่สุดแสนหวานว่า ถึงเพื่อนผู้ที่น่ารักที่สุดในโลก ไม่มีผู้หญิงคนใดจะโชคดีไปมากกว่าฉันผู้นี้อีกแล้ว ฉันรู้ว่าคุณกำลังมาหาฉัน และจะมาเป็นของฉัน ฉันสามารถรับรู้ได้ในทุกตัวอักษรของคุณ ว่าคุณเป็นคนที่ฉันต้องการ มันไม่ยากเลยที่จะเลือกคุณ ฉันชอบคุณมากกว่าใครๆบนโลกใบนี้ ฉันรู้วิธีที่จะทำให้เรามีความสุขด้วยกัน คุณคือคนที่สุดแสนหวานที่สุดในโลก แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกัน ใครจะคิดอย่างไรก็ตามแต่ แต่สำหรับฉันแล้ว คุณมีคุณค่าที่สุด ลูกๆของฉันก็รักคุณ และฉันยังได้ยินเสียงตัวเองกำลังฮัมเพลงรักเก่าๆ มันช่างเป็นดนตรีที่แสนไพเราะสวยงาม ที่มันกำลังก้องอยู่ในหูของฉัน หัวใจของฉันกำลังเต้นรำด้วยความปลาบปลื้มใจ คุณเฮลเกเลียนของฉัน ฉันรักคุณ คุณคือที่พักทางใจสำหรับฉันตลอดไป

หลังจากที่เฮลเกเลียนได้อ่านจดหมายของเบลล์ เขาก็มุ่งหน้าไปหาเธอในช่วงเดือนมกราคมปี 1908  พร้อมกับเช็คเงินสดมูลค่า 2,900 ดอลล่า แล้วทุกอย่างก็เป็นไปเหมือนเช่นเคย ที่อีกแค่ไม่กี่วันต่อมา เฮลเกเลียนก็ต้องหายสาปสูญไป ส่วนเบลล์กลับไปปรากฏตัวอยู่ที่ธนาคารในลาพอร์เต้ เพื่อที่จะเบิกเงินสดออกจากบัญชีของเฮลเกเลียน เป็นจำนวนรวม 1,200 ดอลลาร์ จากธนาคาร 2 แห่ง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุไม่นาน มีการค้นพบจดหมายฉบับหนึ่งที่ฟาร์มของเฮลเกเลียน ซึ่งได้ลงวันที่เอาไว้เมื่อ 13 มกราคม 1908




Re: เพจรวมเรื่องสยองขวัญ ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2022, 09:12:00 pm
เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา 2
วันเวลาที่ผ่านไป เบลล์เริ่มมีปัญหากับรอย แลมเฟียร์ คนรักซ่อนเร้นที่อยู่ในสถานะของลูกจ้าง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเบลล์นั่นเอง และตอนนี้แลมเฟียร์กำลังจะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่งในชีวิตของเบลล์ ยิ่งนานวันแลมเฟียร์ก็ยิ่งเพิ่มความรักความลุ่มหลงในตัวเบลล์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเริ่มเข้ามายุ่งย่ามกับชีวิตของเธอ อีกทั้งเขายังเป็นคนขี้หึงขี้อิจฉา โดยเฉพาะกับพวกผู้ชายที่ทยอยเข้ามาในฟาร์มของเบลล์ โดยเขามักจะแสดงท่าทีถึงหวงไม่พอใจ เหมือนกับจะแสดงว่า เขานั้นเป็นเจ้าของตัวจริงของเบลล์ ซึ่งเพราะความก้าวก่ายวุ่นวายของเขา ทำให้เบลต้องตัดสินใจไล่แลมเฟียร์ออกไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1908 ทั้งที่ยังมีความกังวลอยู่ว่า เขาอาจจะเอาความลับของเธอไปเปิดเผย ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง เธอจึงมุ่งตรงไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่น แล้วแจ้งความไว้ว่าแลมเฟียร์มีอาการเสียสติ และจะทำอันตรายแก่เธอได้
แลมเฟียร์จึงถูกนำตัวมาสอบสวน และถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้เบลล์ แต่หลายวันหลังจากนั้น เบลล์ก็มายังสถานีตำรวจอีกครั้ง โดยเธอบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า แลมเฟียร์ ยังคงตามเธอมาที่ฟาร์ม ทำให้เขาถูกจับตัวเอาไว้ในข้อหาบุกรุก

แต่ปัญหาของเบลก็ไม่ใช่ว่าจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ เมื่อเฮลเกเลียน ซึ่งเป็นเหยื่อที่เธอคิดว่าเขาไม่มีญาติพี่น้อง แต่กลับปรากฏว่าเขามีน้องชายที่ชื่อว่าเอลเซ่ น้องชายของเขายังเคยได้รับจดหมายด้วยว่าเขากำลังจะแต่งงานกับแม่หม้ายที่ลาพอร์เต้ เมื่อเอลเซ่ถามเบลล์เกี่ยวกับการหายตัวไปของพี่ชาย เบลรีบบอกว่า เฮลเกเลียนไม่ได้มาหาเธอ น้องชายของเฮลเกเลียนจึงได้รวบรวมคนเพื่อออกตามหาพี่ชาย แต่เบลล์ก็พูดดักทางไว้ว่า การตามหาคนสูญหายนั้นต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก หากจะให้เธอช่วยตามหาก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายให้เธอด้วย ซึ่งเอลเซ่ก็ได้ตอบตกลงและวางแผนว่าจะ้ดินทางไปที่ลาพอร์เต้ในเดือนพฤษภาคม

หากมีคนจำนวนมากช่วยกันออกตามหา เรื่องทั้งหมดที่เธอได้เคยทำไว้ก็จะถูกเปิดเผยขึ้นได้ง่ายๆ เบลล์จึงได้วางแผนหาทางออกให้กับปัญหาเหล่านี้ เธอคิดจะใช้แลมเฟียร์ในการเอาตัวรอด เธอต้องการสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนมุ่งเป้าไปที่แลมเฟียร์ และทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาคือคนร้าย เบลเดินทางไปพบกับทนายในตัวเมืองโดยอ้างว่า เธอกำลังถูกแลมเฟียร์ตามรังควาน อีกทั้งยังได้ข่มขู่ว่าเขาจะฆ่าเธอ และยังจะเผาบ้านของเธออีกด้วย นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตของเธอ และพวกลูกๆ และด้วยปัญหานี้ เธอจึงขอทำพินัยกรรมทั้งหมดที่มีอยู่มอบให้กับลูกๆทั้งสามคน ในกรณีที่เธอต้องมีเหตุใดๆจนถึงขั้นต้องเสียชีวิต หลังจากนั้นเธอก็เดินทางไปแจ้งความด้วยข้อมูลลักษณะแบบนี้ที่สถานีตำรวจ จากนั้นเบลล์ก็ไปทำการถอนเงินสดทั้งหมดออกจากธนาคาร เพื่อเตรียมการอะไรบางอย่าง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่เบลล์จะใช้วิธีการลอบวางเพลิงเผาบ้านของตัวเองจนวอดวาย

โจ แม็กซ์สัน เป็นลูกจ้างที่เบลจ้างมาทำงานในฟาร์ม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1908 ซึ่งราว 2 เดือนหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 28 เมษายน เขาก็ได้ตื่นขึ้นมาเนื่องจากได้กลิ่นเหม็นไหม้ที่ห้องชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของบ้านของคุณนายเบลล์ โจ แม็กซ์สันจนปัญญาที่จะดับไฟ จึงได้แต่วิ่งไปตามให้คนมาช่วย แต่กว่าที่ผู้คนจะมาถึง บ้านทั้งหลังก็วอดวายกลายเป็นกองฟืนไปหมดแล้ว


จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุตำรวจพบศพ 4 ศพจากห้องใต้ดิน 3 ใน 4 ศพนั้นเป็นศพของเด็กที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นลูกๆของเบล ส่วนอีกศพหนึ่งไม่สามารถทำการระบุได้ว่าเป็นศพของเบลล์ กันเนสหรือไม่ เนื่องจากเป็นศพไร้หัว และส่วนของหัวก็ไม่พบในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด แต่เนื่องจากศพนั้นอยู่รวมกับศพของพวกเด็กๆ และยังมีฟันปลอมของเบลล์ตกอยู่ข้างศพอีกด้วย จึงทำให้ในท้ายที่สุดตำรวจ จึงตั้งสันนิษฐานไปตามที่เห็นว่าศพหญิงสาวไร้หัวนี้ก็น่าจะเป็นศพของเบลล์กันเนสไปโดยปริยาย

ในอำเภอก็ได้มีข่าวลือ เรื่องที่เบลเข้าไปแจ้งความ เกี่ยวกับการถูก lamphu ข่มขู่และพยายามที่จะคุกคามชีวิตของเธอ โดยมีการระบุเอาไว้ว่า แลมเฟียร์จะฆ่าเธอและลูกๆ พร้อมกับเผาบ้านตามที่เขาได้เคยข่มขู่เอาไว้ อีก 1 เดือนให้หลังในวันที่ 23 พฤษภาคม รอย แลมเฟียร์ ก็ถูกจับในข้อหาวางเพลิง และฆาตกรรมอีก 4 คดี ซึ่งเขาก็ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายเขาก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เฉพาะในส่วนของคดีของการลอบวางเพลิง และถูกจำคุกนานถึง 21 ปี
คดีนี้เหมือนว่าจะจบลง เมื่อแลมเฟียร์ต้องก้มหน้าก้มตาเข้าคุก หากแต่ว่าเรื่องราวนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อจบของผู้หญิงไร้หัวที่เคยถูกระบุว่าเป็นศพของเบลล์นั้น หลายคนไม่ยอมเชื่อว่านั่นเป็นศพของเบลล์ตัวจริง เพราะทุกคนที่รู้จักมักคุ้นกับเบลล์นั้น เมื่อได้เห็นศพนี้ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่ไม่ใช่ศพของคุณนายเบลล์ที่พวกเขารู้จักอย่างแน่นอน เพราะเบลล์นั้นเป็นผู้หญิงที่มีร่างกายสูงใหญ่มาก ซึ่งเธอนั้นสูงประมาณ 5.8 ฟุต แต่ศพนั้นสูงเพียง 5.3 ฟุตเท่านั้น อีกทั้งน้ำหนักของเบลโดยประมาณคือ  180-200 ปอนด์ เจอศพไร้หัวนั้นกลับมีน้ำหนักเพียงแค่ 150 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งขนาดร่างกายของเบลนั้นสามารถตรวจสอบได้จากร้านเสื้อผ้าสตรีร้านประจำของเธอนั่นเอง นอกจากนี้ผลจากการชันสูตรศพอย่างละเอียดก็พบว่า ศพไร้หัวนี้เสียชีวิตด้วยฤทธิ์ของยาเบื่อ

ต่อมาเมื่อเอลเซ่ เฮลเกเลียนรู้ถึงข่าวคราวของเบลล์ เขาจึงรีบเดินทางมาที่ลาพอร์เต้เพื่อเข้าพบนายอำเภอและแจ้งการหายตัวไปของพี่ชาย ซึ่งเขาก็ได้สงสัยว่า เบลล์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นายอำเภอจึงนำกำลังคนเข้าไปขุดค้นที่บ้านของเบลล์ กันเนส จนกระทั่งได้พบกับศพจำนวนมากถึง 13 ศพ ซึ่งบางศพ ก็เป็นศพที่ถูกระบุว่าเป็นคนที่หายในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีศพของแอนดรูว์ เฮลเกเลียนด้วยจริงๆ

ศพทุกศพจะถูกตัดแขนขาแล้วเอาไว้ด้วยกระดาษน้ำมัน ทำให้บางศพไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพของใครกันแน่ และเมื่อยิ่งมีการตรวจค้นอย่างละเอียด ก็ได้พบว่าภายในบริเวณฟาร์มของเบลล์ กันเนสนั้น มีศพคนอื่นๆถูกฝังเอาไว้มากกว่า 40 ศพ มีทั้งศพเด็กและศพผู้ใหญ่ อีกทั้งศพแต่ละศพนั้นก็เป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวของเบลล์ หรือเป็นบุคคลที่ได้เข้ามาในชีวิตของเบลล์ แล้วต่างก็พากันหายสาบสูญไป หลายปีต่อมา ในวันที่ 14 มกราคม  1910 แลมเฟียร์ ที่กำลังรับโทษอยู่ในคุก ก็ได้สารภาพบาปกับบาทหลวง ว่าเขาเคยเป็นคนรักของเบล และได้ให้ความร่วมมือในการก่อคดีฆาตกรรม โดยวิธีที่เขาและเธอทำร่วมกันมาตลอดคือ การแอบใส่ยานอนหลับลงไปผสมในเครื่องดื่ม จนเมื่อเหยื่อได้ดื่มเข้าไปก็จะเกิดอาการมึนเมา หลังจากนั้นเบลล์จะทำการตัดหัวของเหยื่อด้วยมือของเธอเอง แล้วจึงนำร่างนั้นไปวางไว้บนโต๊ะในห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นโต๊ะประจำที่ใช้สำหรับทำการชำแหละแยกชิ้นส่วน

แลมเฟียร์ยังได้บอกอีกว่า เบลล์มีความเชี่ยวชาญในการชำแหละแยกชิ้นส่วนมนุษย์มาก โดยศพที่เธอได้ทำการชำระแล้ว ส่วนหนึ่งก็จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหมู ส่วนที่เหลือเขาก็จะทำการฝังแล้วกลบด้วยปูนขาว เพื่อเป็นการป้องกันกลิ่นไม่ให้โชยออกมา อดีตคนรักของเบลล์ยังได้บอกอีกว่า แม้ว่าเบลจะต้องเหน็ดเหนื่อยในการกำจัดศพแค่ไหน เธอก็จะทำเท่ากับว่ามันเป็นงานที่สำคัญมาก แม้แต่ในเวลากลางค่ำกลางคืน เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะชำแหละชิ้นส่วนของเหยื่ออย่างขยันขันแข็ง ก่อนที่จะนำเศษชิ้นส่วนของเหยื่อไปเลี้ยงหมู แลมเฟียร์ถึงกับเอ่ยปากสาบานว่า เบลล์ยังไม่ได้ตายไปจริงๆตามที่ตำรวจสันนิษฐานอย่างแน่นอน เพราะศพไร้หัวในที่เกิดเหตุนั้น เป็นศพของหญิงเร่ร่อนที่มาจากชิคาโก้ ที่โดนเบลล์หลอกมาว่าจะให้มาทำงานเป็นแม่บ้าน จากนั้นเมื่อได้เวลาที่จะได้ดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ เดี๋ยวก็หลอกให้แม่บ้านคนนั้นดื่มยาพิษ แล้วก็ลงมือฆ่าเธอด้วยการตัดหัว ซึ่งส่วนหัวของแม่บ้านผู้โชคร้ายคนนี้ได้ถูกนำเอาไปทิ้งในบึงน้ำแห่งหนึ่ง

จากนั้นเธอก็ได้ทำการฆ่าลูกๆของตัวเอง ด้วยการให้ยาสลบ แล้วทำให้เด็กๆขาดอากาศหายใจจนตาย แล้วก็ลากศพเด็กทั้ง 3 ศพรวมถึงศพของแม่บ้านคนนั้นไปไว้ที่ห้องใต้ดิน แล้วเธอก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับศพไร้หัวเป็นเสื้อผ้าเก่าของเธอ สำหรับฟันปลอมของเธอที่ถูกนำเอาไว้ข้างๆกับร่างของศพ ก็เพื่อจงใจสร้างหลักฐานลวงว่านั้นเป็นศพของเธอเอง จากนั้นเธอก็ทำการวางเพลิงบ้านของตัวเอง เราคงจะหลบหนีไปยังเมืองข้างๆแล้วก็หลบหนีไปเมืองต่างๆต่อไป นอกจากนี้แลมเฟียร์ยังได้พูดถึงรายละเอียดอื่นๆอีกด้วยว่า เบลทำการฆ่าเหยื่อไปแล้วทั้งหมด 42 คน เพียงเพื่อจะได้ทำการยึดเอาทรัพย์สินที่พวกเขานำติดตัวมาด้วย และการหลอกลวงเหยื่อมาทำการฆาตกรรมเช่นนี้ ก็ทำให้เธอมีเงินสะสมมากถึง 250,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งนับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลในยุคสมัยนั้น


อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบว่าสิ่งที่แลมเฟียร์พูดมาทั้งหมดนั้น เป็นความจริงหรือไม่ เพราะก่อนที่จะได้ทำการพิสูจน์ เขาก็ได้เสียชีวิตด้วยโรควัณโรคไปก่อน และหลังจากนั้นอีกหลายปี ได้มีรายงานการพบเห็นเบลล์ตามเมืองต่างๆ อย่างชิคาโก้ นิวยอร์ค ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และในช่วงปลายปี 1931  ได้มีรายงานแจ้งเข้ามาว่า เบลล์ยังคงมีชีวิตอยู่ในมิสซิสซิปปี้ ในฐานะของเศรษฐีนีอาวุโสผู้หนึ่ง และในปีเดียวกันนี้ เอสเธอร์ คาร์ลสัน ก็ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวในลอสแอนเจลิส ด้วยข้อหาวางยาพิษเพื่อหวังสมบัติ โดยมีพยานในเหตุการณ์ 2 คนที่ยืนยันว่า เอสเธอร์ คาร์ลสัน ก็คือเบลล์ กันเนสนั่นเอง โดยพวกเขาพยายามอ้างอิงตัวตนของคนทั้งคู่ด้วยรูปถ่าย แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการพิสูจน์แต่อย่างใด เนื่องจากเอสเธอร์ คาร์ลสันได้เสียชีวิตลงไปก่อนหน้าที่จะขึ้นศาล

เวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานจนถึงทุกวันนี้ ชื่อของเบลล์ กันเนส ก็เป็นที่จดจำของผู้คนเรากับว่าเป็นตำนานเรื่องหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ จนกระทั่งในปี 2007  ศพไร้หัวที่ถูกสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเบลล์ กันเนส ซึ่งได้ถูกฝังเอาไว้รวมกับสามีคนแรกของเธอ ได้ถูกขุดขึ้นมาเพื่อทำการพิสูจน์ โดยทีมนักกฎหมายและมานุษยวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยของรัฐอินเดียน่าโพลิส ซึ่งการขุดศพไร้หัวขึ้นมาตรวจสอบในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะใช้วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอ แต่ก็ยังไม่มีผลสรุปชี้ชัดออกมาว่า ศพไร้หัวนั้นจะเป็นศพของเบลล์ กันเนสจริงหรือไม่

ขอบคุณที่มาข้อมูล youtube channel BiRdY-CH






https://www.anyapedia.com
https://www.anyapedia.com/p/blog-page.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_9527.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_2405.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_22.html
https://www.anyapedia.com/p/blog-page_4871.html





 

แบคดรอปผ้า
รับติดแบนเนอร์เว็บบอล